Tame Impala วงดนตรีแนวไซคีเดลิกร็อก
นิยามของดนตรีที่มาจากยาเสพติด
- ไซคีเดลิกร็อก (Psychedelic rock) มีแรงบันดาลใจมาจากนักดนตรีที่รับการใช้ยาเสพติดหลอนประสาท โดยเฉพาะ LSD (Lysergic acid diethylamide) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ acid ทำให้สามารถเดินทางเพื่อไปพบกับประสบการณ์ทางจิตที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในยามปกติ ซึ่งนักดนตรีไซคีเดลิกร็อกในยุคแรก พยายามจะถ่ายทอดประสบการณ์ทางจิตเหล่านี้ออกมาในรูปแบบของเพลง
- Tame Impala วงดนตรีแนวไซคีเดลิกร็อก (Psychedelic rock) สัญชาติออสเตรเลีย มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน มีจุดเริ่มต้นการทำเพลงแบบ The One Man Band โดยเควิน ปาร์กเกอร์ อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและขั้นตอนการทำเพลงทั้งหมด
ก้าวแรกของ Tame Impala ที่มีแค่เควิน ปาร์กเกอร์
Tame Impala มีจุดเริ่มต้นการทำเพลงแบบ The One Man Band โดยเควิน ปาร์กเกอร์ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและขั้นตอนการทำเพลงทั้งหมด ตั้งแต่แต่งเพลง, บันทึกเสียง, ร้องและเล่นดนตรี รวมถึงโปรดิวซ์ ซึ่งเกิดขึ้นภายในห้องบันทึกเสียงในบ้าน ก่อนจะได้นักดนตรีคนอื่นมาเป็นสมาชิกของวง จนกลายมาเป็น Tame Impala อย่างทุกวันนี้
‘Tame Impala’ วงดนตรีแนวไซคีเดลิกร็อก (Psychedelic rock) สัญชาติออสเตรเลีย มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน คือ Dominic Simper (โดมินิก ซิมเปอร์) ตำแหน่งกีตาร์และซินธิไซเซอร์, Jay Watson (เจย์ วัตสัน) ตำแหน่งกีตาร์และ ซินธิไซเซอร์, Cam Avery (แคเมอรอน อเวรี) ตำแหน่งเบส, Julien Barbagallo (จูเลียน บาร์บากัลโล) ตำแหน่งกลอง และ Frontman อย่าง Kevin Parker (เควิน ปาร์กเกอร์) กีตาร์และร้องนำ
ไซคีเดลิก (Psychedelic)
ดนตรีที่จะคุณพาโลดแล่นไปในโลกเหนือจินตนาการ
Oxford English Dictionary อธิบายคำว่า Psychedelic ไว้ว่าเป็นดนตรี วัฒนธรรม หรืองานศิลปะ มีที่มาจากประสบการณ์ที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด
ดนตรีแนวไซคีเดลิกร็อก (Psychedelic rock) เป็นแนวเพลงร็อกชนิดหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมไซคีเดลิก ที่หลายคนมักนึกถึงสีสัน ลวดลายฉูดฉาด หรือมีความเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์ของไซคีเดลิกร็อกจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ก็ไม่ใช่แก่นของดนตรีแนวนี้ไปซะทั้งหมด และไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ยาเสพติดเพื่อเล่นหรือฟังไซคีเดลิกร็อก เพราะไม่มีดนตรีแนวไหนที่จำเป็นต้องใช้ยาก่อนถึงจะอิน และที่สำคัญ ไซคีเดลิก ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่คือ การเดินทางต่างหากล่ะ
ไซคีเดลิกร็อก (Psychedelic rock) มีแรงบันดาลใจมาจากนักดนตรีที่รับการใช้ยาเสพติดหลอนประสาท โดยเฉพาะ LSD (Lysergic acid diethylamide) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ acid ทำให้สามารถเดินทางเพื่อไปพบกับประสบการณ์ทางจิตที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในยามปกติและการมองเห็นที่ผิดเพี้ยนแต่สวยงาม ไวต่อสิ่งเร้า ซึ่งนักดนตรีไซคีเดลิกร็อกในยุคแรก พยายามจะถ่ายทอดประสบการณ์ทางจิตเหล่านี้ออกมาในรูปแบบของเพลง
จุดเริ่มต้นของวง Tame Impala ที่ผลักดันเพลง
แนวไซคีเดลิกร็อก (Psychedelic rock) ให้มีพลังขึ้นมา
เพลงของ Tame Impala ถูกแต่งขึ้นเพื่อพาให้คนฟังเดินทางไปพบกับประสบการณ์เหนือจินตนาการที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในยามปกติ เน้นความสวยงามของเมโลดี้ ให้ความเคลิบเคลิ้มล่องลอย ทำให้หลุดเข้าไปสู่กาลเวลาแห่งความผิดเพี้ยนแต่สวยงาม มีความสนุก เพลิดเพลินไปกับซาวด์ โดยเฉพาะซินธิไซเซอร์ ที่ทำให้เพลงของ Tame Impala มีความเป็นตัวของตัวเองและแตกต่างจากวงอื่นอย่างสิ้นเชิง
ปี 2007 : เควิน ปาร์กเกอร์ เริ่มทำเพลงของตัวเอง โดยใช้บ้านเป็นสตูดิโอบันทึกเสียง หลังจากนั้นก็ได้นำเพลงทั้งหมดไปโพสต์ลง Myspace (สื่อโซเชียลมีเดีย) กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่อ เควิน ปาร์กเกอร์ เป็นที่สนใจของค่ายเพลงมากมาย เขาตัดสินใจเซ็นสัญญากับสังกัด Modular Recordings ค่ายเพลงอิสระในประเทศออสเตรเลีย ทำให้เขามีโอกาสได้แสดงดนตรีสด และมีแบ็คอัพที่กลายมาเป็นสมาชิกของวง Tame Impala ในปัจจุบัน
ปี 2008 : เปิดตัววง Tame Impala อย่างเป็นทางการ โดยอัลบั้มแรกมีชื่อเดียวกับชื่อวง นอกจากจะพุ่งขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ต Australian Independent Record Labels แล้ว ยังมีโอกาสได้ออกทัวร์กับวงดนตรีอย่าง The Black Keys, You Am I และ MGMT อีกด้วย
ปี 2010 : Tame Impala ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกโดยใช้ชื่อว่า Innerspeaker มีเพลงอย่าง Desire Be Desire Go, Alter Ego, Why Won’t You Make Up Your Mind?, Solitude Is Bliss อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว การันตีได้ด้วยยอดขายระดับแผ่นเสียงทองคำและติดชาร์ตเพลงอันดับต้น ๆ ในออสเตรเลีย
ปี 2012 : ปล่อยอัลบั้มชุดที่ 2 อย่าง Lonerism ถือเป็นผลงานที่แจ้งเกิดวง Tame Impala เลยก็ว่าได้ ประสบความสำเร็จมากจนทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักกับ Tame Impala อย่างเป็นทางการ ซึ่งอัลบั้ม Lonerism เป็นที่รู้จักกันในเพลง Elephant, Mind Mischief, Apocalypse Dreams และ Feels Like We Only Go Backwards เพลงชาติของชาวไซคีเดลิก ถือเป็นเพลงที่ดังที่สุดของวง Tame Impala
ปี 2015 : อัลบั้มที่ 3 Currents เป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Tame Impala มีเพลงฮิตทั้ง The Less I Know The Better, Let It Happen, Cause I’m A Man, Eventually และ Yes, I’m Changing
ปี 2019 : Tame Impala กลับมาพร้อมกับซิงเกิลอย่าง Patience, Borderline และล่าสุดกับเพลง It Might Be Time ยิ่งตอกย้ำว่าดนตรีไซคีเดลิกนั้นสวยงาม มีพลัง และมีบทบาทสำคัญกับวงการดนตรีมากขนาดไหน
แนวเพลงแบบของ Tame Impala นั้นมีความเฉพาะกลุ่มอยู่พอสมควร อาจฟังยากกว่าดนตรีกระแสนิยมทั่วไป ใครที่ชอบก็จะหลงรักไปเลย หรือถ้าไม่ชอบก็คงไม่ฟังเพลงแนวนี้ไปเลย ปฏิเสธไม่ได้ว่า Tame Impala คือหนึ่งในวงดนตรีไซคีเดลิกร็อกที่นึกถึงเป็นวงแรกของวงการเพลงในปัจจุบันจริง ๆ