Search
Close this search box.
ปฏิทินสร้างความสุขใน 30 วัน

30 Days Happiness Challenge

ปฏิทินสร้างความสุขแบบคนพร้อม บวก’

  • 30 Days Happiness Challenge ปฏิทินสร้างความสุขที่มาพร้อมกับภารกิจท้าทายมุมมองของคุณตลอด 1 เดือน
  • คุณจะได้สูดลมหายใจเข้าออก ไปพร้อมกับแนวทางปฏิบัติง่ายๆ ผ่านไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน
  • ฝึกสมาธิ ให้รางวัลกับตัวเอง ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เริ่มบทสนทนากับคนอื่น ฯลฯ
  • หนึ่งเดือนผ่านไป ทัศนคติการใช้ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ? คำตอบอยู่ที่การลงมือทำ

เพราะ ‘ความสุข’ คือหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของชีวิตที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพร่างกาย แนวทางการใช้ชีวิต และมุมมองที่มีต่อเรื่องราวรอบตัว แน่นอนว่า ‘พูดย่อมง่ายกว่าลงมือทำ’ เพราะบ่อยครั้งที่เส้นทางชีวิตของเราไม่ได้สุขสมหวังและราบรื่นได้ทุกวัน จึงไม่แปลกหากหลายคนเลือกมองหาวิธีการเพื่อพาตัวเองมาพบกับความสุข

กล้าไหม ? กับการลุกขึ้นมาท้าทายตัวเองด้วย 30 Days Happiness Challenge ปฏิทินสร้างความสุขที่มาพร้อมภารกิจให้คุณพร้อมบวกตลอดหนึ่งเดือนเต็ม สลัดความกังวลออกไปให้หมดและเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง หลังจากวินาทีนี้เป็นต้นไปคุณจะรู้สึกว่า ชีวิตที่มีความสุขกับเรื่องง่ายๆ รอบตัวเป็นชีวิตคุณภาพอย่างแท้จริง

สัปดาห์ที่หนึ่ง – ชีวิตในมุมบวกเริ่มต้นง่ายๆ

Day 1 : ฝึกสมาธิ ด้วยการเงยหน้าขึ้นมาจากจอโทรศัพท์มือถือ จากนั้นค่อยๆ มองภาพสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวพร้อมสูดลมหายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ

Day 2 : ทักทายคนอื่นบ้าง อาจเป็นการพูดคุยกับพนักงานร้านกาแฟเจ้าประจำในตอนเช้า กล่าวสวัสดีแม่บ้านที่ออฟฟิศ

Day 3 : หยิบกระดาษโน้ตมาลิสต์สิ่งที่คุณอยากขอบคุณและพกติดตัวไว้เสมอ เมื่อไหร่ที่รู้สึกเศร้าใจก็อย่าลืมหยิบขึ้นมาอ่านนะ

Day 4 : ให้โอกาสขอบคุณตัวเองด้วยการเข้าสปา ทำผม ทำเล็บ หรือรับประทานอะไรก็ได้ที่มีความสุข

Day 5  : นัดเพื่อนสนิทแฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน จริงๆ แล้วไม่ได้แค่ต้องการให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศกินข้าวเท่านั้น แต่ยังอยากให้คุณลองสนทนากับเพื่อนเก่าสมัยเรียน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันเสียบ้างเผื่อบางครั้งคุณอาจจะมองเห็นว่า ไม่ใช่เราเพียงคนเดียวที่กำลังเจอปัญหาชีวิต

Day 6 : ไปดูหนังคนเดียว (ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด) เพราะนี่คือโอกาสที่คุณจะได้ทำสิ่งที่ชอบโดยไม่ต้องรอคนอื่น เดินไปซื้อป๊อบคอร์นคนเดียว เลือกที่นั่งแบบที่ต้องการและนำความสนใจทั้งหมดมุ่งไปยังเนื้อหาตรงหน้า

Day 7 : นั่งชิลล์ที่คาเฟ่สักแห่ง ให้อิสระสายตาและความคิดไปกับการเฝ้ามองผู้คนที่เดินผ่านไปมาพร้อมดื่มด่ำกับเครื่องดื่มรสละมุน ลองฟังเสียงความสุขของตัวเองดูสิ บางทีการใช้ชีวิตแบบ Slow Life บ้างก็ไม่แย่ใช่ไหม ?

สัปดาห์ที่สอง – ความสุขของคุณเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?

 

Day 8 : ถึงเวลาจัดระเบียบเพื่อนใน Facebook เพื่อลบความสัมพันธ์ที่เคยทำให้คุณเสียใจ พร้อมเดินหน้ากับความสุขครั้งใหม่ในอนาคต

Day 9 : ดูหนังตลกเรื่องโปรด ถึงแม้ว่าคุณจะเคยดูหนังเรื่องนั้นมาแล้วเกือบร้อยรอบก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าหากสามารถทำให้หัวเราะจนท้องแข็งอีกครั้งได้ ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

Day 10 : ทำอาหารอร่อยๆ ให้ตัวเองและคนที่คุณรัก อย่าลืมปรุงสุดฝีมือและตกแต่งจานให้สวยงาม (เตือนแล้วนะ! / ค่ะเชฟ)

Day 11 : อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นแต่ให้เปลี่ยนความคิดใหม่ว่า เราจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ และจะมองแต่เรื่องดีๆ ของตัวเองให้ได้ทุกวัน

Day 12 : ใช้เวลากับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ หากไม่กล้าบอกรักด้วยคำพูดแอบอนุญาตให้เปลี่ยนเป็นการกระทำแทน

Day 13 : สะสางโปรเจคยักษ์ใหญ่ให้สำเร็จ นับเป็นวิธีเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง นอกจากนี้การทำงานได้ตรงตามเป้าหมายจะยิ่งเพิ่มความสุขและความภูมิใจให้ตัวเองอย่างมากเลยทีเดียว

Day 14 : ออกกำลังกายง่ายๆ อย่างการยืดเส้นยืดสาย เดินเร็ว หรือมองหากิจกรรมที่คุณจะได้เคลื่อนไหวร่างกาย นับว่าเป็นวิธีเปลี่ยนอิริยาบถจากท่าประจำของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศนั่นเอง

สัปดาห์ที่สาม – พร้อมระเบิดความสุขทั้งกายและใจ

Day 15 : หาเวลาระเบิดความสุขไปกับดนตรี อย่างเช่น ฟังเพลงจังหวะเร็วแบบเปิดให้ดังสุดเหวี่ยง อาจจะออกสเต็ปไปด้วยก็ได้นะ (ถ้าไม่เขินและไม่มีใครเห็น)

Day 16 : ออกเดินทางท่องเที่ยว อาจเลือกเป็นสถานที่ใกล้ๆ ไปเช้าเย็นกลับ แต่ขอให้คุณได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์สักวันก็เพียงพอ

Day 17 : ซื้อของขวัญให้ตัวเอง ได้เวลาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อซื้อของใช้ไร้สาระที่จะทำให้คุณมีความสุขแล้ว แต่ต้องระวังอย่าช้อปกระจายจนกระเป๋าฉีก เพราะไม่เช่นนั้นจากเส้นทางสู่ความสุขจะกลายเป็นมีความทุกข์เข้าทักทายได้

Day 18 : เลิกนิสัยขี้นินทา ถือว่าเป็นการเดินออกจากทัศนคติด้านลบและไม่เสียเวลาไปอย่างไร้สาระ แนะนำให้ค่อยๆ เลิกนิสัยนี้ทีละนิด มั่นใจได้เลยว่าอีกไม่นานเกินรอ คุณจะมีความสุขและเป็นตัวเองในแบบที่สมบูรณ์แบบ

Day 19 : เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนากับเพื่อนร่วมงานบ้าง รวมทั้งอย่ามาทำงานหน้ามุ่ยและเสียบหูฟังเพื่อตัดขาดกับโลกภายนอกตลอดเวลา ลองกล่าวทักทาย ชวนคุยเรื่องทั่วไปก่อนบ้างจะทำให้บรรยากาศการทำงานของคุณดีขึ้นเยอะเลย

Day 20 : งดเล่นโซเชียลมีเดีย 1 วัน

Day 21 : บันทึกเรื่องราวของคุณในวันนี้ อย่าลืมเขียนสิ่งดีๆ ลงไปและอ่านให้ตัวเองฟัง คุณจะสัมผัสได้ทันทีว่าเรื่องร้ายๆ ไม่ได้อยู่กับคุณทุกวันอย่างที่คิด

สัปดาห์สุดท้าย – สู่มุมมองชีวิตที่ ‘สุข’ ขึ้นกว่าเดิม

Day 22 : แต่งตัวให้ดูดีที่สุด เพื่อเพิ่มพลังบวกให้แก่ตัวเอง

Day 23 : ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างเช่น เลือกเล่นกีฬาผาดโผน ตัดสินใจเรียนขับรถ ตัดผมสั้น ฯลฯ

Day 24 : จัดห้องนอน คอนโดหรือบ้านให้เรียบร้อย เพราะเราเชื่อว่าขณะนี้คุณกำลังต้องการพื้นที่ว่างสำหรับนอนเอกเขนกบนพื้นอย่างมีความสุข

Day 25 : หยุดพูดเรื่องร้ายๆ ถึงคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการสบถคำหยาบ การดูถูกคนอื่น

Day 26 : แกล้งลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านและหันไปพูดคุยกับคนรอบตัว อ่านหนังสือ ตลอดจนมองหาความบันเทิงและความสุขที่เคยได้รับสมัยก่อนไม่มีอินเทอร์เน็ต

Day 27 : พูดขอบคุณใครก็ตามที่ผ่านมาช่วยเหลือคุณในวันนี้ นอกจากเราจะสุขใจแล้วยังเป็นการมอบพลังบวกให้คนอื่นอีกด้วย

Day 28 : เรียนรู้ทักษะใหม่ แนะนำให้เลือกทักษะเล็กๆ ใกล้ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนหลอดไฟด้วยตนเอง ฝึกทำอาหารตามสูตรในอินเทอร์เน็ต ฝึกการพูดและปรับบุคลิกภาพหน้ากระจกคนเดียว ฯลฯ

Day 29 : ดูแลร่างกายของคุณด้วยการกิน ตั้งแต่ดื่มน้ำให้มากขึ้นมาก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปิดท้ายด้วยกินวิตามินบำรุงสุขภาพก่อนเข้านอน

Day 30 : ไปยืนหน้ากระจกพร้อมกับหายใจเข้า-ออกลึกๆ และจำไว้ว่าไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิด แม้แต่ห้องที่มืดที่สุดก็ยังมีแสงสว่างเสมอ

SHARE

RELATED POSTS

คิดงานไม่ออกทำไงดี?10 วิธีจัดการสมองตันให้กลับมาไอเดียแล่นอีกครั้ง อาการคิดงานไม่ออกเกิดจากการใช้สมองที่มากเกินไป ทำให้สมองตัน…
การอยู่ตัวคนเดียวแม้จะเหงาแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป มาดูข้อดีของการอยู่คนเดียวบ้างดีกว่าว่าจะทำให้ชีวิตมีอิสระและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างไรกัน…