Search
Close this search box.
ไฟป่าออสเตรเลีย

ไฟป่าออสเตรเลีย : คนที่ช่วยคือคนที่จุดไฟ

  • การที่ไฟป่าจะเกิดขึ้นได้นั้นมีหลายปัจจัย แต่ไฟป่าออสเตรเลียครั้งนี้พบแล้วว่า 50% นั้นมาจากการวางเพลิงที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน
  • ส่วนอีก 50% นั้นเกิดจากคน ๆ หนึ่งที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าทั้งหมด เพื่อแลกกับความสะดวกสบายที่จะได้มา
  • และคนนั้นก็คือคนที่เคยบอกว่า เราต้องช่วยกัน

ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีเหตุการณ์ไฟป่ารุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นไฟป่าแอมะซอน ไฟป่าอินโดฯ ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย ล่าสุดคือไฟป่าออสเตรเลีย ซึ่งภาพที่น่าสะเทือนใจที่สุดคงเป็นการเห็นโคอาล่าและจิงโจ้หนีตายจากไฟป่า แต่โดยทั่วไปแล้วสาเหตุที่ทำให้ไฟลุกไหม้นั้นมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะมาจากการเสียดสีของกิ่งไม้ การหักเหของแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบกับหิน รวมถึงฝีมือมนุษย์ที่จุดไฟเผาไร่ ก่อกองไฟ

ไฟไหม้ป่าออสเตรเลียมาจากมนุษย์

แต่ดูเหมือนว่าไฟไหม้ป่าออสเตรเลียครั้งนี้น่าจะมาจากมนุษย์ล้วน ๆ ซึ่งทางออสเตรเลียออกมาเผยแล้วว่าได้จับกุมคนลอบวางเพลิงจำนวน 183 คน โดยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) มี 24 คนที่ถูกจับกุม ในรัฐวิกตอเรียมี 43 คน และรัฐควีนส์แลนด์ที่ไหม้รุนแรงที่สุดช่วงเดือนพฤศจิกายนมี 101 คน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการจงใจทำให้ไฟไหม้ แต่ที่น่าประหลาดใจคือกลุ่มคนวางเพลิงส่วนใหญ่เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นเด็กและเยาวชน

Janet Stanley รองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นกล่าวว่า “นักวางเพลิงส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มที่มีอายุระหว่าง 12 ถึง 24 ปี หรือ 60 ปีขึ้นไป และดูเหมือนว่าจะมีภูมิหลังที่เจ็บปวดจากการเลี้ยงดู ที่ต้องทนต่อการถูกทิ้งและถูกทารุณตั้งแต่เด็ก

James Ogloff ผู้อำนวยการด้านวาทศิลป์พฤติกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Swinburne ยังระบุว่านักวางเพลิงกลุ่มนี้รู้สึกสนใจที่เห็นไฟไหม้ จนนำไปสู่การจุดไฟ เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้น แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุของไฟป่าออสเตรเลียครั้งนี้ก็มาจากกลุ่มคนวางเพลิงเพียง 50% เท่านั้น

50% มาจากคนวางเพลิง แล้วอีก 50% อยู่ที่ใคร

ไฟไหม้ป่าออสเตรเลียมาจากคนวางเพลิง 50%

นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 จนถึงตอนนี้ ยังเห็นว่าไฟป่าออสเตรเลียไม่มีท่าทีว่าจะมอดสนิท ซึ่งเราคาดเดาว่าสาเหตุที่ไฟไหม้ลุกลามติดต่อกันเช่นนี้ คงเป็นเพราะโลกร้อนขึ้น ยิ่งในช่วงฤดูแล้งตอนต้นปี กิ่งไม้ใบหญ้ายิ่งแห้ง ไฟก็ยิ่งติดง่าย มนุษย์แทบไม่ต้องลงมือจุดเองด้วยซ้ำ เราแค่ใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ จนลืมไปว่าการใช้ชีวิตของเราส่งผลให้โลกร้อนยังไงบ้าง

อย่างเช่น การกินทิ้งกินขว้าง ส่งผลให้แก๊สเรือนกระจกเพิ่มขึ้น อุณหภูมิโลกเลยพุ่งปี๊ดตามไปด้วย หรือแม้แต่การใช้พลาสติกฟุ่มเฟือย ที่หลายคนเอ๊ะขึ้นมาว่าเกี่ยวกับการลดโลกร้อนยังไง จะบอกว่ายิ่งเราใช้พลาสติกมาก คาร์บอนไดออกไซด์ที่ลอยสู่ชั้นบรรยากาศจากการเผาไหม้ในกระบวนการผลิตก็จะยิ่งสูงขึ้น

ที่นี้เจอสาเหตุไฟไหม้ป่าออสเตรเลียอีก 50 % แล้วหรือยัง มาจากตัวเราทั้งนั้น ลำพังคนเดียวอาจไม่กระทบอะไรเท่าไร แต่พอรวมกันทั้งโลกมันเลยขยายเป็นวงกว้าง พอเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าทีไร เรากลับเป็นคนที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ได้แต่หวังว่าจะมีหน่วยงานไหนสักแห่งออกมาช่วยทัน ทั้ง ๆ ที่ตัวเราควรจะเป็นคนที่หยุดไม่ให้มันเกิดขึ้นตั้งแต่แรก

เราบอกตัวเองมากี่ครั้งว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะช่วยกัน
ตอนนี้ผ่านมา 10 กว่าปีแล้วนะ ทำไมถึงแย่ลงทุกปี

Previous slide
Next slide

แถมสัตว์ป่าจำนวน 500 ล้านตัวที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าออสเตรเลียครั้งนี้ บางตัวที่รอดก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้กลับไปบ้านของตัวเองอีกไหม ป่าจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ให้พวกเขาอยู่รอดได้หรือเปล่า แต่ดูจากสถานการณ์แล้วเดาไม่ออกเลยว่าไฟป่าจะดับเมื่อไร

รู้แบบนี้แล้ว ยังจะรอให้มันเกิดขึ้นอีกไหม ถ้าไม่ เราคงต้องเปลี่ยน เพราะถ้าจะรอให้ไฟป่ามาเตือนเราถี่ ๆ แบบนี้ วันใดวันหนึ่งอาจจะไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้อีกเลยก็ได้

SHARE

RELATED POSTS