พักก่อนไหม ?
หากความเครียดเริ่มปะทุเพราะการเมือง
- ‘อริสโตเติล’ (Aristotle) กล่าวเอาไว้ว่า “มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่หมกมุ่นแต่เรื่องการเมือง
- การเลือกผู้นำที่ดุเดือดและผลลัพธ์ไม่เป็นดังหวัง นำไปสู่สภาวะความเครียดจากการเมือง (Political Stress Syndrom) ได้
- ความเครียดดังกล่าวจะแสดงออกมาทั้งทางกาย ใจ รวมทั้งส่งผลกระทบถึงพฤติกรรมและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
- การพาตนเองออกจากสิ่งแวดล้อมทางการเมืองสามารถหยุดสภาวะความเครียดนี้ได้ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นทุกเมื่อหากคุณไม่รู้วิธีควบคุมจิตใจให้แข็งแรง
นักปราชญ์ชาวกรีก ‘อริสโตเติล’ (Aristotle) กล่าวเอาไว้ว่า “มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่หมกมุ่นแต่เรื่องการเมือง” ไม่น่าเชื่อว่าแนวคิดนี้จะยังเป็นกระจกสะท้อนชีวิตสัตว์สังคมอย่างพวกเราเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน โดยเฉพาะการค้นหา ‘ผู้นำ’ ที่หลายครั้งมักลงเอยด้วยความเห็นต่างและแบ่งพรรคพวกในที่สุด
ตัวอย่างสดร้อนของการเมืองร้อนระอุในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 30 ของประเทศไทย เรียกได้ว่าบรรดานักการเมืองทั้งรุ่นใหม่ – รุ่นเก่าต่างชิงไหวชิงพริบแย่งเก้าอี้ในสภาอย่างดุเดือดทุกวินาที ท้ายที่สุดบุคคลที่ได้ครองบัลลังก์เหล็ก (เอ้ย! ผิดเรื่อง) คนที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและบริหารประเทศก็ยังเป็นรัฐบาลชุดลุงตู่ ซึ่งขอทำหน้าที่คืนความสุขให้คนไทยและเดินหน้าไปพร้อมกันอีกครั้งเป็นสมัยที่ 2
ความเผ็ดร้อนชนิดพริกขี้หนูสิบเม็ดของการเมืองไทยในพ.ศ. นี้นอกจากจะก่อให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใสถึงที่มาของตำแหน่งแล้ว ความเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่ละครั้งก็มักทำให้ประชาชนหวาดเสียว ใจตุ้มๆ ต่อมๆ กันไม่น้อย ซึ่งคนที่จิตอ่อน และมีอารมณ์ร่วมกับสถานการณ์ดังกล่าวมากเกินไปต้องระวังให้ดี เพราะคุณอาจเป็นประชาชนผู้ถูกเลือกให้อยู่ใน สภาวะความเครียดจากการเมือง (Political Stress Syndrom) โดยไม่รู้ตัว
ป่วยใจเพราะการเมืองเป็นอย่างไร ?
ความเครียดอันเนื่องมาจากการเมืองนั้นไม่ได้เป็นโรคทางจิตเวช เพียงแต่เป็นความรู้สึกที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่ติดตามข่าวการเมือง และแน่นอนว่าในพ.ศ. นี้เหล่าเจนเนอเรชั่นนักคิดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องรู้จักสร้างภูมิต้านทานจิตใจให้แข็งแรง เพราะเมื่อไหร่ที่อำนาจของกลุ่มคนในสภาทำให้เราจิตใจกวัดแกว่งเกินจะรับมือได้ เมื่อนั้นคุณอาจจะต้องถอยออกมาตั้งหลักสักก้าว และสำรวจพฤติกรรมของตนเองอย่างถี่ถ้วนว่ายังสบายดีอยู่ หรือควรหยุดเครียดเพียงเท่านี้
หากรู้สึกว่าข่าวการเมืองหรือแฮชแท็กโจมตี ส.ส.ในสภาทำให้คุณอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายจนเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เราขอแนะนำให้พบจิตแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษาโดยด่วน หากความเครียดของคุณอยู่ในขั้นแรกๆ คุณหมอจะแนะนำให้มองหาความสนใจอื่นๆ เพื่อถอยออกจากเรื่องการเมืองสักระยะ แต่หากส่งผลกระทบรุนแรงก็อาจได้รับยาคลายเครียด ยาคลายความกังวล หรือยานอนหลับ ซึ่งสภาวะเช่นนี้สามารถหายได้หากคุณหลุดจากสภาพแวดล้อมทางการเมือง แต่ในทางกลับกันก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกครั้งถ้าไม่สามารถจัดการไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ดีพอ
แม้เราจะอาศัยอยู่ในสังคมระบอบประชาธิปไตย แต่วิธีแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านโซเชียลมีเดียเช่นปัจจุบัน กลับไม่ได้อบอวลด้วยบรรยากาศประชาธิปไตยในอุดมคติโดยสมบูรณ์ ดังนั้นหากคุณหลีกหนีความรุนแรงของการเมืองไม่ได้ คาถาที่ต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจเพื่อช่วยรักษาสภาพจิตใจนั่นก็คือ
จงมีสติและวิจารณญาณ
อย่าลืมหายใจเข้าออกลึกๆ พร้อมท่องในใจดังๆ สามครั้ง เพราะถึงแม้ว่าปัญหาบ้านเมืองจะแก้ไขยากอย่างไรก็ตาม แต่จิตใจที่ถูกกัดแหว่งเพราะความเครียดของคุณสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน
