![cover web cover web](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/cover-web-scaled-qbbon6zmxs8jxxhedkzq6knmx7q5j1tbqqypbzopxc.jpg)
Fast Fashion คืออะไร แค่ชอบแต่งตัวก็ทำร้ายโลกได้?!
- Fast Fashion คือ แฟชั่นตามกระแส มาไวไปไว เสื้อผ้าจึงถูกผลิตอย่างรวดเร็วด้วยต้นทุนต่ำ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด กลายเป็นแฟชั่นวงจรสั้น เน้นการขายในปริมาณมาก ทำให้ได้รับความนิยมจนเกิดการปลูกฝังแนวคิดในการสรรหาเสื้อผ้ามาใส่ตามสไตล์ ‘ของมันต้องมี’
- Fast Fashion ตัวการร้ายที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการใช้วัสดุราคาถูกอย่าง ‘ไมโครไฟเบอร์’ เส้นใยพลาสติก แทรกซึมสู่ลงทะเล กระทบต่อสัตว์น้ำ และกระบวนการผลิตยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 3,300 ล้านตันต่อปี
- แก้ปัญหา Fast Fashion ด้วยแนวคิด ‘Sustainability’ (แฟชั่นหมุนเวียน) โดยนำเสื้อผ้าเก่ามาใส่ซ้ำ หรือเลือกใช้วัสดุในการผลิตที่สามารถรีไซเคิลได้ เพื่อลดปริมาณขยะจากเสื้อผ้า ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก และรักษาโลกให้คงอยู่ต่อไป
สงสัยไหมว่า Fast Fashion ที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ คืออะไร แท้จริงแล้ว Fast Fashion คือสิ่งที่ใกล้ตัวเรามาก ยกตัวอย่างเช่น กำลังแต่งตัวออกไปข้างนอกแต่ไม่รู้จะใส่อะไรดี เสื้อผ้าที่มีเต็มตู้ก็เก่าจนเอาต์ไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องกลับไปไถหน้าจอโทรศัพท์ กดสั่งเสื้อผ้าจากร้านค้าออนไลน์ พอได้ของมาก็ใส่ไม่กี่ครั้ง เพราะเสื้อผ้าที่เคยอินกลับตกเทรนด์ไปซะแล้ว! กลายเป็นต้อง ‘ซื้อ-ใส่-ทิ้ง’ วนไปมาเป็นวัฏจักร ‘Fast Fashion’ วันนี้ Short Recap จะมาเจาะลึกถึงเบื้องหลัง Fast Fashion ว่าส่งผลกระทบต่อโลกยังไง?… ตามไปดูกันเลย!
รู้จัก Fast Fashion คืออะไร?
![](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2023/08/card1.jpg)
Fast Fashion คือ แฟชั่นตามเทรนด์ ทันกระแส ไอเทมไหนฮิต ดาราไอดอลใส่ ของแบบนี้เราก็ต้องมี! แน่นอนว่าแฟชั่นทันโลกแบบนี้ ย่อมมาไวไปไว แถมยังต้องแข่งกับเวลา ทำให้กระบวนการผลิตเสื้อผ้าต้องมีความรวดเร็ว ฉับไว ใช้ต้นทุนต่ำในการผลิตเพื่อให้เสื้อผ้ามีราคาถูก และผู้บริโภคเข้าถึงสะดวก จนเกิดเป็นการซื้อง่ายขายคล่อง แม้ว่า Fast Fashion จะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ แต่กลับสร้างผลเสียต่อโลกอย่างมหาศาล ด้วยขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้น้ำถึง 3,000 ลิตรเพื่อผลิตเสื้อผ้า 1 ตัว รวมถึงการใช้สารเคมีย้อมสีสังเคราะห์ จนเกิดเป็นน้ำเสียระบายออกสู่ท้องทะเล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 20% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นเลยทีเดียว!
Fast Fashion ทำร้ายโลกยังไง? แค่ตามแฟชั่นเอง
![](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2023/08/card2.jpg)
กระบวนการผลิตของ Fast Fashion คือตัวการสำคัญที่ทำให้โลกร้อน เนื่องจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้า Fast Fashion มักเลือกใช้วัสดุต้นทุนต่ำ เพื่อให้สามารถผลิตได้ไว ตามทันกระแส แถมยังได้กำไรในการหมุนเวียนธุรกิจโดยไม่ต้องลงทุนมาก แต่วัสดุดังกล่าวนั้นคือ ‘ไมโครไฟเบอร์’ เป็นพลาสติกขนาดเล็กที่ไม่สามารถย่อยสลายในน้ำได้ ทำให้เกิดการแทรกซึมลงสู่ท้องทะเล ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารของสัตว์น้ำน้อยใหญ่ อีกทั้งกระบวนการผลิตเสื้อผ้าจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 3,300 พันล้านตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับปริมาณขยะจากขวดพลาสติกถึง 50,000 ล้านขวด! ซึ่งหลายธุรกิจมีวิธีการ ‘ทำลายขยะ’ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ด้วยการฝังกลบดิน (Landfill) แต่กลับเป็นการทิ้งสารตกค้างในดิน จนส่งผลเสียต่อระบบนิเวศแทน
นอกจากจะกระทบต่อโลกแล้ว Fast Fashion ยังส่งผลพ่วงให้ผู้คนมีพฤติกรรมชอปปิงเครื่องแต่งกายที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงกระบวนการที่กว่าจะมาเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นยอดฮิตเหล่านี้ก็มีเบื้องหลังอยู่เช่นกัน
Fast Fashion คือการสร้างค่านิยมใหม่ให้ผู้บริโภค
![](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2023/08/card3.jpg)
การมาถึงของ Fast Fashion คือการสั่นสะเทือนวงการแฟชั่นครั้งใหญ่ เมื่อผู้คนสามารถเลือกใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์ในราคาย่อมเยาว์ อุตสาหกรรมเสื้อผ้าจึงเลือกที่จะผลิตคอลเลกชันใหม่ ๆ เพื่อเอาใจผู้บริโภค และปลูกฝังแนวคิด ‘ของมันต้องมี’ เพื่อเสริมให้เกิดกำลังซื้อ จนกลายเป็นวงจรแฟชั่นขนาดสั้น และเกิดค่านิยมใหม่ในหมู่ผู้บริโภคที่สามารถสวมใส่ ‘เสื้อผ้าราคาถูก’ รูปทรงสวยงามได้ในราคาไม่แพง
สาเหตุที่ทำให้อุตสาหกรรม Fast Fashion ได้รับความนิยม เป็นเพราะเสื้อผ้าช่วยเสริมสร้างบุคลิก และแสดงตัวตนของผู้สวมใส่ การเลือกเสื้อผ้าตามกระแสก็เพื่อให้ได้การยอมรับจากสังคม โดยเฉพาะยุคที่เสพติดโซเชียล การแต่งตัวด้วยชุดเดิมซ้ำ ๆ อาจจะทำให้ตัวเองตกเทรนด์จนถูกมองว่าแปลกแยก ซึ่งความคิดหรือพฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่าย ‘โรคกลัวตกกระแส’ Fear of Missing Out (FOMO) ส่งผลให้ไม่ยอมพลาดที่จะซื้อเสื้อผ้าคอลเลกชันใหม่ แม้รู้ดีว่าเนื้อผ้าไม่มีคุณภาพก็ตาม
Fast Fashion คือเสื้อผ้าราคาถูก ที่แลกมาด้วยการกดขี่แรงงาน
Fast Fashion ไม่ได้ส่งผลเสียกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างปัญหาสิทธิมนุษยชนระดับโลก ซึ่งเกิดจากความต้องการลดทุน และเพิ่มปริมาณการผลิต แรงงานในหลายประเทศจึงต้องเผชิญกับค่าแรงที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ตัวอย่างที่ถูกกล่าวถึงคือ ‘ชาวอุยกูร์’ ในประเทศจีนที่กดขี่ค่าแรงและถูกบังคับให้ทำงานในสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้าย ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่ จนเกิดเป็นกระแสต่อต้าน Fast Fashion ขึ้นทั่วโลก
ทางออกของ Fast Fashion คือ การใช้แนวคิดแบบ Sustainability
Fast Fashion อาจมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมน้อยลง เนื่องจากทั้งผู้คน ผู้ผลิต ไปจนถึงแบรนด์สินค้า และอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ประเทศไทยมีเป้าหมายในการมุ่งสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมนี้ก็มีกว่าหลายพันล้านตันต่อปี เพราะเหตุนี้เองจึงส่งผลต่อทั้งด้านผู้บริโภคที่มองว่า Fast Fashion เป็นสิ่งไม่จำเป็น และด้านผู้ผลิตก็หันมาเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลหรือเลือกวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เพื่อสร้างวงจรแฟชั่นหมุนเวียน ผลิตอย่างใส่ใจโลก เน้นความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลจากบริษัท Thredup ร้านค้าออนไลน์มือสองในสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า ใน 10 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดของเสื้อผ้ามือสอง จะเติบโตแซงหน้า Fast Fashion ถึง 2 เท่า! และมีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะสนใจเสื้อผ้า Fast Fashion น้อยลง เทรนด์แฟชั่นจะเน้นไปที่ความยั่งยืนมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมในปัจจุบัน
เปลี่ยน Fast Fashion ให้กลายเป็น Sustain ง่าย ๆ ด้วยมือเรา
![](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2023/08/card4.jpg)
เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวงจรแฟชั่นหมุนเวียนได้ เพียงปรับเปลี่ยนนิสัยการชอปจาก Fast ให้ Slow ค่อย ๆ ซื้อ ค่อย ๆ ใช้ ช่วยได้ทั้งโลกและกระเป๋าตังเราเลย แล้ววิธีในการลด ละ เลิก Fast Fashion มีอะไรบ้าง? มาดูกันเลย
- เลือกเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ วัสดุรีไซเคิลได้ เนื้อผ้าคงทน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- เลือกซื้อเสื้อผ้ามือสอง ช่วยชุบชีวิตเสื้อผ้าเก่า แถมยังได้ใส่เสื้อผ้าสไตล์วินเทจ
- ถนอมผ้าไว้ให้นานเท่านาน ยืดอายุการใช้งาน ด้วยการดูแลเนื้อผ้าตามคำแนะนำ ใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน และใช้วิธีตากแดด หรือผึ่งลมให้แห้งแทนการใช้เครื่องอบผ้า
- ซ่อมแทนการซื้อใหม่ ต่ออายุการใช้งานได้อีกนิด หากชำรุดนิดหน่อย ลองซ่อมก่อนซื้อใหม่ก็ใส่ได้เหมือนเดิมแล้ว
- DIY ชุดใหม่ ลอง Mix & Match เสื้อผ้าให้เป็นชุดใหม่ ใส่ต่อได้แบบสวย ๆ
เราก็ได้รู้แล้วว่า Fast Fashion คือปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ‘ปัญหาเสื้อผ้าล้นโลก’ จึงควรได้รับการใส่ใจและแก้ไข เพื่อการหยุดวงจรแฟชั่นขนาดสั้น พร้อมรักษาโลกให้อยู่ต่อไป