รู้จัก Boy Pablo ศิลปินหนุ่มสุดอินดี้
พร้อมสนุกไปด้วยกันปลายปีนี้
- Boy Pablo ศิลปินหนุ่มน้อยชาว Norwegians โดดเด่นด้วยสไตล์ดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง ที่เขานิยามว่าเป็นแบบ Happy Melodic
- เขาได้รับอิทธิพลทางด้านดนตรีมาจากครอบครัวที่คนในบ้านเล่นดนตรีกันทุกคน โดยเฉพาะพ่อ ที่เล่นเครื่องดนตรีได้แทบทุกอย่าง และพี่ชายที่ชอบเปิดเพลงของวง The Beatles และ Ramones
- ระเบิดความสนุกในไทยเป็นครั้งที่ 2 กับคอนเสิร์ต ‘BOY PABLO LIVE IN BANGKOK’ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ณ Voice Space
- หลังจากปล่อยแต่เพลงที่เป็น EP มาเนิ่นนาน ปลายปี 2563 นี้ เขาจะมีอัลบั้มแรกในชื่อ ‘Wachito Rico’ โดยปล่อย 3 เพลงออกมาให้ฟังแล้วกับ hey girl, I just wanna go home และ honey
ศิลปินอินดี้ป๊อป จากประเทศนอร์เวย์ ที่โดดเด่นทั้งสไตล์ดนตรี และคาแรกเตอร์ อย่าง บอย พาโบล Boy Pablo (Nicolás Pablo Rivera Muñoz) หนุ่มน้อยวัยเกือบ 20 ปี มาพร้อมกับพรสวรรค์ทางด้านดนตรี เพราะทุกผลงานเพลง เขาสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวเองทั้งหมด ทำให้เป็นที่จับตามองในหมู่คนฟังเพลงนอกกระแส รวมไปถึงศิลปินหลายคน ตั้งแต่โซนยุโรป ยันแถบอเมริกา และมาถึงประเทศไทยอีกด้วย เราไปทำความรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้ และผลงานเพลงสุดอินดี้ของเขากันดีกว่า ก่อนจะมาเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่จะถึงนี้
รู้จัก Boy Pablo หนุ่มมาดกวน ชวนให้หลงรัก
Boy Pablo หนุ่มน้อยชาว Norwegians เขาเติบโตมากับครอบครัวในเมืองเบอร์เกน (Bergen) และเข้าศึกษาที่ Kongshaug Musikkgymnas เป็นโรงเรียนดนตรี เอกชน ซึ่งเขาได้รับอิทธิพลทางดนตรี มาจากครอบครัว ทุกคนในบ้านเล่นดนตรีกันทุกคน โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อ ที่เล่นดนตรีได้เกือบทุกเครื่อง และพี่ชายของเขา มักจะชอบเปิดเพลงของวง The Beatles และวง Ramones จึงหล่อหลอมให้เป็นเขาอย่างทุกวันนี้
แรงบันดาลใจในการทำเพลงของ Boy Pablo มาจาก ‘การเติบโตในเมือง อย่างเบอร์เกน ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ทุกอย่างที่นั่นไม่มีอะไรให้คุณต้องกังวลเลย ที่นั่นฝนตกราว 364 วันต่อปี ส่วนอีกวันหนึ่งที่เหลือของปีนั้น พระอาทิตย์จะขึ้น วันนั้นจะสดใสและมหัศจรรย์มาก’ (บทสัมภาษณ์จาก Cortex Creative) และเขาได้นิยามแนวดนตรีของตัวเองว่าเป็น Happy Melodic
แนวดนตรีเป็นแบบ Indie Pop – Rock เขาเป็นทั้ง Singer / Song Writer และ Multi – Instrumentalist เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของวัยรุ่น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลาฟังเพลงของ Boy Pablo แล้วหลายคนจะรู้สึกอินไปกับเพลงมากเป็นพิเศษ
ต้นสังกัดของ Boy Pablo อย่าง 777tv เป็นหนึ่งช่องทางที่เปิดรับศิลปิน DIY (Do it yourself) ที่เชื่อว่าคลื่นลูกใหม่แบบเขากำลังมา โดยโปรเจกต์ Boy Pablo เริ่มขึ้นเมื่อปลายปี 2015 กับเพื่อนของเขา แล้วก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศนอร์เวย์ ตอนปี 2016 และในปี 2017 เมื่อเขาได้ลงวิดีโอเพลง ‘Everytime’ ใน Youtube ได้เกิดเป็นไวรัลขึ้นมา รวมถึงถูกพูดถึงใน Reddit (แพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการแชร์ลิงก์และข้อมูล) หลังจากนั้นก็มีจำนวนผู้ฟังเพิ่มมากขึ้นถึง 25,000 ยอดวิว จนทำให้เพลงนี้ เป็นคลิปแนะนำตามระบบอัลกอริทึมของ Youtube ในช่วงเดือนตุลาคม แล้วกระแสของเพลงก็ทะยานขึ้นไปหลายล้านครั้งเลยทีเดียวล่ะ
และหลังจากนั้นชื่อของ บอย พาโบล Boy Pablo ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น ไม่ใช่แค่ประเทศของเขา แต่ดังไปถึงทวีปอเมริกา ยุโรป ไล่มาจนถึงเอเชีย จนทำให้เกิดการทัวร์คอนเสิร์ตไปในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ในปี 2018 ที่ผ่านมาอีกด้วย
หากพูดถึงอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ที่เป็นเสน่ห์ของ Boy Pablo ก็คงจะเป็นสไตล์ Norwegian Boy ลุคแต่งกายที่เขาจะใส่ Sweater หรือเสื้อตัวหลวม มีสีสันหลากหลาย เหมาะกับแนวเพลงที่เขาได้นิยามเอาไว้จริงๆ เพราะดูแล้วมัน Happy และมี Melody เป็นของตัวเองเอามากๆ
ความสามารถแน่นไปด้วยคุณภาพ บวกกับเสียงร้องที่สะกดผู้ฟังของเขา มัดใจได้ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวอย่างล้นหลาม เมื่อดูกระแสตอบรับจากปีที่แล้วที่ Boy Pablo มาเปิดคอนเสิร์ตในบ้านเรา แฟนเพลงชาวไทยหัวใจอินดี้ ต่างรอคอยที่จะได้ดูพรสวรรค์ทางด้านดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา ตั้งแต่วันที่เริ่มขายบัตรเลยทีเดียว และทุกคนก็ต่างมีความสุขกับเมโลดี้ที่เขาสร้างสรรค์ออกมา ขอบอกว่าบรรยากาศในคอนเสิร์ตสนุกมากๆ ถึงแม้ศิลปินอาจจะดูอายุน้อย แต่ก็สามารถเอาคนดูอยู่จริงๆ
เราลองมาย้อนกลับไปฟังผลงานที่เป็นเพลงเปิดตัว ทำให้ Boy Pablo เป็นที่รู้จักก่อนดีกว่า กับเพลง ‘Everytime’ หรือถ้าเกิดว่าใครอยากฟังเพลงอื่นๆ อย่าง Losing you, Sick Feeling, Tkm และอีกมากมาย สามารถฟังผ่าน Music Streaming ได้เลย รับรองว่าคุณจะต้องเคลิบเคลิ้มกับดนตรีสุดอินดี้ของ Boy Pablo จนอยากไปดูเขาแสดงสดสักครั้งในชีวิตแน่นอน
หลังจากปล่อยแต่เพลงที่เป็น EP อย่างที่เราได้ฟังกันมาสักพักแล้ว ปลายปี 2563 นี้ บอย พาโบล Boy Pablo จะมีอัลบั้มแรกในชื่อ ‘Wachito Rico’ โดยปล่อยให้ฟังด้วยกันแล้ว 3 เพลง คือ hey girl, I just wanna go home และ honey
Boy Pablo ได้พูดถึงความรู้สึกของเพลง ‘hey girl’ เอาไว้ว่า เขาแต่งเพลงนี้จากมุมมองของเด็กหนุ่มที่กำลังตกหลุมรักเป็นครั้งแรก และอยากทำอะไรสักอย่างที่จะทำให้ความสัมพันธ์นี้เดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าเขาจะประหม่า เขิน และสั่นระทวย แค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็กล้าที่จะทำและเข้าไปพูดคุยกับเธอ
ส่วนเพลง ‘I just wanna go home’ จะสื่อถึงการที่เราเติบโตขึ้น พร้อมกับตระหนักได้ว่าเราเองก็ต้องมีความรับผิดชอบอีกมากมาย บางครั้งอาจจะรู้สึก lost หลงทางหรือไร้จุดหมายไปบ้างกับช่วงเวลาที่กำลังค้นหาตัวเองเมื่อต้องเติบโตขึ้น ซึ่งจะแตกต่างกับเพลง ‘hey girl’ โดยสิ้นเชิง
และเพลงล่าสุดที่บอย พาโบล ปล่อยให้ฟังอย่าง ‘honey’ ก็มีเนื้อหาหวาน ๆ ถึงคนรัก บวกกับการเล่นคำในเพลงนิดหน่อย อย่างเช่นท่อนที่ร้องว่า “the clouds grow bigger” เป็นการเปรียบเปรยถึงปัญหาที่ก่อตัวขึ้น หรือท่อน “Falling isn’t really that bad” ก็หมายถึง การตกหลุมรักมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นซะหน่อย
