รีวิว “Itaewon Class”
กลยุทธ์ธุรกิจปิดเกมแค้นที่ผู้ประกอบการต้องรู้
- Itaewon Class คือเรื่องราวของพัคแซรอยที่ต้องการแก้แค้นให้กับพ่อ วิธีของเขาคือการสร้างธุรกิจร้านอาหารให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 แทนที่ชางกาให้ได้
- การแก้แค้นของเขาต่างจากหนังที่เราเห็นทั่วไป เพราะเขาแทบจะไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมทำลายคู่ตรงข้ามเลยสักครั้ง ทุกอย่างมันเต็มไปด้วยความพยายาม ความอดทน และความถูกต้อง
- Itaewon Class จึงเป็นซีรีส์ที่บอกเล่าถึงคุณสมบัติที่ผู้ประกอบการหลายคนควรรู้และทำความเข้าใจ เพราะนั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสยิ่งใหญ่ได้เหมือน IC (Itaewon Class) ที่เริ่มจากร้านเล็ก ๆ ชื่อทันบัม
- ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐาน การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ การให้บริการ ฯลฯ รวมถึงคนในทีมที่เถ้าแก่ทุกคนควรเข้าใจให้มากที่สุด ที่สุดของที่สุดจริง ๆ
Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น ถือเป็นซีรีส์ที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับช่อง JTBC เลยทีเดียว ล่าสุดขึ้นแท่นซีรีส์ที่ทำเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของช่อง รองจาก SKY Castle หลังจากออกอากาศไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ และได้ออกอากาศเป็นวันสุดท้ายเมื่อ 21 มีนาคม 63 ที่ผ่านมา
Itaewon Class เป็นซีรีส์กระแสมาแรงที่ทำให้หลายคนพูดถึงกันอยู่มาก เพราะเป็นเรื่องราวที่สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำธุรกิจที่เข้มข้นดุเดือดทุกตอน และเป็นข้อคิดให้กับคนที่คิดจะประกอบธุรกิจส่วนตัวอีกด้วย
Short Recap เลยขอเอาซีรีส์เรื่องนี้มาเล่าให้ทุกคนฟัง แต่ก่อนอื่นใครที่อยากรู้เรื่องราวคร่าว ๆ ก็สามารถอ่านเรื่องย่อก่อนได้ ส่วนใครที่ไม่อยากเจอสปอยล์ แต่อยากรู้ว่ากลยุทธ์ปิดเกมแค้นของพระเอกเป็นยังไงก็ข้ามเรื่องย่อไปเลย
เนื้อเรื่องฉบับย่อของคนขี้เกียจดู
Itaewon Class เป็นเรื่องราวของพัคแซรอย ผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ใครถ้าไม่ผิด เขาได้เข้าไปห้ามและต่อยชางกึนวอน ลูกชายของประธานบริษัทชางกา ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจด้านอาหาร เพราะทนกับการเห็นคนอื่นโดนชางกึนวอนกลั่นแกล้งไม่ไหว ด้วยอำนาจของประธานแห่งชางกา ทำให้พัคแซรอยถูกไล่ออกจากโรงเรียน และพ่อของเขาผู้ที่ทำงานในบริษัทชางกามาเนิ่นนานตัดสินใจลาออกจากชางกาด้วย
ต่อมาพัคแซรอยกับพ่อตัดสินใจเปิดร้านอาหาร แต่วันหนึ่งในระหว่างทางไปซื้อของ พ่อของแซรอยประสบอุบัติเหตุ และเสียชีวิตด้วยฝีมือของชางกึนวอนที่ขับรถชนโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ประธานของชางกาผู้เป็นพ่อต้องหาคนอื่นมารับผิดแทน เพื่อให้ลูกตัวเองไม่มีความผิด และสั่งตำรวจไม่ให้สืบสวนคดีนี้
เมื่อพัคแซรอยได้รู้ความจริงจึงโกรธและแค้นมาก เลยไปทำร้ายชางกึนวอนจนตัวเองต้องติดคุกข้อหาพยายามฆ่า ระหว่างติดคุกก็วางแผนว่าจะล้มชางกาให้ได้ วิธีของเขาคือเปิดร้านอาหารแข่งกับชางกา และต้องเป็นอันดับ 1 แทนที่ชางกา ซึ่งในระหว่างทางของการสู้ชีวิต เขาก็โดนชางกาเล่นงานมาตลอด แต่พัคแซรอยไม่เคยคิดยอมแพ้เลยสักวินาทีเดียว โดยมีโชอีซอ ฮยอนอี ซึงกวอน ชางกึนซู และโทนี่เป็นเพื่อนร่วมทาง แม้ว่าจะใช้ระยะเวลาเป็นสิบกว่าปี แต่เขาก็ล้มชางกาได้สำเร็จ
ทำไมต้องเป็น Itaewon
อิแทวอน เป็นย่านดังของโซลในเกาหลีใต้ มีความหลากหลายของเชื้อชาติ หลากวัฒนธรรม เพราะคนต่างชาติต่างภาษาทั่วโลกมารวมกันที่นี่ ทำให้ย่านอิแทวอนคึกคักตลอดเวลา ผู้คนเพ่นพ่านเต็มถนน มีร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงอยู่ทั่วทุกมุม ทำให้ค่าเช่าในอิแทวอนสูงขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโซลเลย
"6 กลยุทธ์การตลาด ธุรกิจปิดเกมแค้น" ของ Itaewon Class
1. มาตรฐาน คือสิ่งที่เจ้าของต้องให้ความสำคัญมากที่สุด
จะเห็นว่าช่วงแรก ๆ ที่ทันบัมเปิด ลูกค้าแทบจะไม่มีเลย แต่หลังจากโชอีซอเข้ามาช่วยจัดการเปลี่ยนแปลง ทันบัมก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามาเยอะขึ้น ซึ่งสิ่งที่โชอีซอมักจะย้ำอยู่เสมอคือเรื่องของ “มาตรฐาน” ที่แต่ละร้านจำเป็นต้องมี
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความสะอาด ความปลอดภัย ความสะดวกในการใช้บริการ (ของในร้านไม่เกะกะจนเดินไม่ได้) การตกแต่งร้านค้า (แสงสีที่พอถ่ายรูปออกมาแล้วอาหารต้องดูน่ากิน) รวมถึงวัตถุดิบและรสชาติที่ดี ไม่อย่างนั้นธุรกิจของคุณจะไปต่อได้ลำบาก เพราะไม่เกิดการซื้อซ้ำ
2. จุดแข็งของสินค้า คือสิ่งที่ทุกแบรนด์ควรมี
จุดแข็งของสินค้า คือการทำให้ผู้บริโภครู้ว่ามีแค่เราที่เดียวเท่านั้นที่ทำได้ เช่น เมนูนี้ที่นี่อร่อยที่สุด สินค้าแบบนี้ที่นี่คงทนที่สุด หรือพนักงานที่นี่บริการดีที่สุด อย่างใน Itaewon Class พัคแซรอยคอนเฟิร์มเลยว่าซุปเต้าหู้ของเขาอร่อยที่สุด เพราะใส่ใจเรื่องการหมักถั่วเหลืองที่จะมาทำเป็นซอสปรุง
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จุดแข็งของธุรกิจอาหารส่วนใหญ่คือเรื่องของรสชาติ ที่เจ้าของต้องมองไปถึงการเลือกวัตถุดิบที่จะทำให้อาหารของเขาอร่อย ผู้บริโภคทานแล้วรู้สึกดีจนต้องกลับมาทานอีกครั้ง
3. การสร้างการรับรู้ วิธีเดียวอาจไม่พอ
การสร้างการรับรู้หรือ Awareness ด้วยการแจกใบปลิวไม่ใช่วิธีที่แย่ แต่ต้องยอมรับว่าการตลาดออนไลน์ในยุคนี้อาจได้ผลมากกว่า เพราะไม่ว่าธุรกิจไหนตอนนี้ก็หันหน้าเข้าหาออนไลน์กันทั้งนั้น ซึ่งในเรื่อง Itaewon Class ถือว่าพัคแซรอยโชคดีมากที่ได้โชอีซอ บล็อกเกอร์สาวอายุแค่ 20 ปี แต่มีผู้ติดตามไอจีกว่า 7 แสนคนมาเป็น Influencer ให้กับร้าน จนเริ่มเป็นที่รู้จักและมีคนเข้ามาทานอาหารที่ร้านมากขึ้น ทำให้ยอดขายต่อวันทะลุไปถึง 36 ล้านวอน จากเดิมที่วัน ๆ ขายแทบไม่ได้เลย
4. สินค้ามีหลากหลาย แต่อันไหนล่ะที่ Recommended
ความหลากหลายของสินค้า ย่อมสร้างโอกาสในการซื้อได้มากกว่าอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าลูกค้าใหม่ ๆ มักไม่รู้ว่าร้านค้าของเรามีสินค้าอันไหนบ้างที่คนนิยมซื้อนิยมทาน โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ที่โชอีซอเน้นย้ำนักหนาว่าต้องหาเมนูเด่นที่แนะนำให้ได้ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อก่อน และมั่นใจว่าต้องอร่อยแน่ ๆ ยิ่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ยิ่งต้องบอกว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหนที่ขายดีเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อขาย
5. การบริการที่ดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง
ทุกสินค้าและบริการต้องจำไว้เสมอว่า การบริการที่ดีจะมัดใจลูกค้าให้อยู่กับเราได้นาน โดยเฉพาะเรื่องความสุภาพ ที่เราต้องให้กับลูกค้าทุกคน ไม่ว่าเขาจะอยู่ในระดับหรือฐานะใดก็ตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคำนึงเรื่องความถูกต้อง แต่ก็ต้องไม่ใจร้อนมากเกินไปจนตีกับลูกค้า แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปัจเจกก็ตาม แต่ผลเสียคือกระทบทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสีย จนไปต่อได้ยาก
6. ทีมคือสิ่งที่ดันให้ธุรกิจไปต่อ
ไม่ว่าจะธุรกิจประเภทใดก็ตาม เราไม่สามารถไปถึงเป้าหมายได้ถ้าไม่มีทีมช่วย Itaewon ทำให้เราประทับใจมากกับการมีทีมหรือเพื่อนที่ช่วยดันให้ธุรกิจขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะฮยอนอี หัวหน้าเชฟซึ่งเป็นทรานส์เจนเดอร์ ได้สร้างฉากของการพยายามทำอาหารให้อร่อย แม้ว่าจะถูกกดดัน จนกลายเป็นเชฟฝีมือดีอันดับ 1 ของการประกวดทำอาหาร
ตรงนี้ทำให้เห็นชัดเลยว่า ถ้าเจอลูกน้องไม่เก่ง เราไม่ควรทอดทิ้งเขา สิ่งสำคัญคือการให้โอกาสจนกว่าเขาจะทำได้ดี เข้าถึงใจลูกน้อง รู้ว่าเขากำลังเจอกับปัญหาอะไร ถ้าเถ้าแก่ทำตรงนี้ได้ ให้เชื่อเลยว่าเขาจะอยู่และจงรักภักดีกับเราตลอดไป และเราจะไปต่อกับทีมได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่ได้ไปมากกว่านั้นมันคือมิตรภาพ ไม่ใช่ความสัมพันธ์แค่ลูกน้องกับนายจ้าง
นอกเหนือจากเรื่องการตลาดใน Itaewon Class แล้ว จริง ๆ ยังมีประเด็นอื่นที่น่าสนใจหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ Bully หรือกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน การเหยียดเพศและชาติพันธุ์ รวมถึงความยุติธรรมที่คนด้อยกว่าไม่เคยได้รับ ซึ่งในอิแทวอนนำเสนอแง่มุมเหล่านี้ไว้ได้ดีมาก ๆ ไปติดตามเรื่องราวของพวกเขาได้ที่ Netflix เลย มีทั้งหมด 16 ตอน
หนังสือ Digital Marketing: Concept & Case Study (2561)
https://www.korseries.com/itaewon-class-becomes
https://www.korseries.com/itaewon-class-know-more-about-itaewon-neighborhood/