ความโสดเวิร์กกว่าที่คิด ข้อดีของการอยู่คนเดียวแบบ 360 องศา
- พนักงานที่ทำงานได้ดีกว่ามักมาจากบริษัทที่ให้พื้นที่ส่วนตัวในการทำงานเพื่อไม่ให้ถูกรบกวน โดย 62% ของพนักงานที่ทำงานได้ดีที่สุดบอกว่าพวกเขามีความเป็นส่วนตัวในที่ทำงาน ในขณะที่เพียง 19% ของพนักงานที่ทำงานได้แย่บอกแบบเดียวกัน และอีก 76% ของพนักงานที่ทำงานได้แย่ก็บอกว่าพวกเขามักถูกรบกวนในที่ทำงานด้วยเรื่องไร้สาระอยู่บ่อยครั้ง
- การ Brainstorm ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เพราะสร้าง Cognitive Fixation (การครอบงำทางความคิด) สมาชิกในกลุ่มมักมีแนวโน้มที่จะโน้มเอียงไปตามไอเดียของคนอื่น จนทำให้คิดอะไรใหม่ ๆ ไม่ค่อยออก การอยู่คนเดียวจึงสามารถช่วยให้งานสำเร็จได้ดีกว่า
- ไม่ต้องคอยเช็ก Notification ว่าอีกฝ่ายจะตั้ง In Relationship กับเราไหม จะโพสต์ข้อความอะไรบ้าง จะไปไหน ทำอะไรให้รำคาญใจ ไม่ต้องเสียเวลากับการใช้มือถือทั้งวัน จึงเหมือนเราได้ทำ Digital Detox ไปในตัว
การอยู่คนเดียวแม้จะเหงา แต่ก็ใช่ว่าจะแย่เสมอไป เพราะการอยู่คนเดียวมีทั้งประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงด้านการทำงาน “มีงานวิจัยหนึ่งศึกษาจากนักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำนวน 600 คน จาก 92 บริษัท พบว่าพนักงานแต่ละที่นั้นมีศักยภาพที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก โดยพนักงานที่ทำงานได้ดีกว่ามักมาจากบริษัทที่ให้พื้นที่การทำงานแบบส่วนตัวเพื่อไม่ให้พนักงานถูกรบกวน ซึ่ง 62% ของพนักงานที่ทำงานได้ดีที่สุดบอกว่าพวกเขามีความเป็นส่วนตัวในที่ทำงาน ในขณะที่มีเพียง 19% ของพนักงานที่ทำงานได้แย่เท่านั้นที่บอกแบบเดียวกัน และอีก 76% ของพนักงานที่ทำงานได้แย่ก็บอกว่าพวกเขามักถูกรบกวนด้วยเรื่องไร้สาระอยู่บ่อยครั้ง”
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ข้อดีของการอยู่คนเดียวยังมีอีกหลายข้อ หากคุณอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่าลองหันมาเรียนรู้ที่จะอยู่ตัวคนเดียวดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่อย่างที่เราคิดเสมอไป มาดูกันดีกว่าว่าข้อดีเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง
1.ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ
แน่นอนว่าการอยู่กับคนอื่นช่วยให้ชีวิตสนุก ไม่เหงา แต่มันก็มาพร้อมกับการต้องเสียสละความเป็นตัวเองบางอย่างเพื่อปรับตัวให้เข้ากับความต้องการและความคิดเห็นของคนอื่น ๆ ฉะนั้นข้อดีของการอยู่คนเดียวจึงอยู่ที่การมีอิสระ สามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากทำโดยไม่ต้องรอใคร อยากออกไปเที่ยวก็ไม่ต้องขออนุญาตใครก่อน กลับตอนไหนก็ได้ ชอปปิงนาน ๆ ก็ไม่ต้องคอยกังวลว่ามีคนรออยู่ แถมยังดูซีรีส์ได้แบบยาว ๆ โดยไม่ต้องคอยใคร แม้แต่จะกินหมูกระทะ หรือปั่นเรือถีบ หากมั่นใจก็ยังทำคนเดียวได้อีกเหมือนกันด้วย
2.เติมพลังให้ตัวเอง
เมื่ออยู่ตัวคนเดียว เราจะมีเวลาของความสงบมากขึ้น ซึ่งเวลาเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยฟื้นฟูเราจากวันเครียด ๆ เราจะสามารถชาร์จพลังจากการทำในสิ่งที่ชอบ สนองนี้ดตัวเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพะวงว่าจะต้องแบ่งเวลาไปให้ใคร เพราะฉะนั้นช่วงโสดนี่แหละจึงเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เราสนใจ หรือทุ่มเทกับเป้าหมายที่ตั้งใจไว้อย่างการลดน้ำหนัก!
3.พึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น
ข้อดีของการอยู่คนเดียวที่สำคัญอีกอย่างคือ คุณจะสังเกตตัวเองได้เลยว่าคุณมีความมั่นใจมากขึ้นเป็นกองว่าสามารถอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง พึ่งพาตัวเองได้ คุณจะสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้แบบไม่สะดุด ไม่ต้องมานั่งเศร้าเสียใจหรือเป็นทุกข์หากว่าเพื่อนหรือแฟนไม่ว่างไปทานข้าวด้วย
4.ใส่ใจความรู้สึกตัวเองมากขึ้น
หลายครั้งเมื่อเราอยู่รวมกันเป็นแก๊งแล้วต้องคอยสนใจความรู้สึกของคนอื่น คอยแคร์อารมณ์ของทุกคน คอยรับฟังปัญหาของคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองก็มีเรื่องหนักอกหนักใจอยู่เหมือนกัน แทนที่การอยู่กับคนมากมายจะทำให้เราได้ระบายปัญหาของตัวเองออกไปบ้าง กลับทำให้ได้รับเรื่องหนักๆเข้ามาในตัวเพิ่มขึ้นจนหน่วงกว่าเดิม ฉะนั้นแล้ว ข้อดีของการอยู่คนเดียวจึงอยู่ที่ช่วยให้เราสามารถแคร์ความรู้สึกของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำให้เราได้ยินเสียงของตัวเอง ได้เข้าใจความรู้สึกและความต้องการของตัวเองโดยไม่ต้องคอยกังวลกับความคาดหวังหรืออารมณ์ความรู้สึกของใครทั้งนั้น
5.เปิดโอกาสให้ตัวเอง
ก็อย่างว่า เรามันตัวคนเดียว จะคุยกับใครก็ได้ใช่ไหมล่ะ! คนมีแฟนเขาคุยได้แค่คนเดียว แต่ถ้าไม่มีแฟน เราก็จะคุยกับใครกี่คนก็ได้ไม่มีใครว่า ซึ่งการคุยกับใครหลายคนเหมือนการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักและเรียนรู้คนอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อการหาความสัมพันธ์แบบแฟนก็ได้ เราอาจได้เพื่อนใหม่ ได้คอนเนคชั่นใหม่ ๆ ได้รู้จักกับคนใหม่ ๆ ที่อาจเปิดโลกให้ได้เห็นอีกมุมมองที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งคูล ๆ ที่ไม่สามารถทำได้หากเรามีแฟนแล้ว
6.มีเพื่อนต่างเพศได้อย่างสบายใจ
การมีเพื่อนต่างเพศมักเป็นต้นตอของปัญหาอับดับหนึ่งของคนมีแฟน! ฉะนั้น ข้อดีของการอยู่คนเดียวอย่างหนึ่งจึงอยู่ที่เราสามารถมีเพื่อนต่างเพศได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องคอยระแวงว่าจะโดนจับผิด หรือต้องคอยคิดคำโกหกเพื่อหาทางแก้ต่างให้ตัวเอง ไหน ๆ ยุคนี้การมีเพื่อนต่างเพศก็ไม่ใช่เรื่องผิดแล้ว เมื่อผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้ การอยู่คนเดียวก็ทำให้เราสามารถมีเพื่อนต่างเพศได้โดยไม่ทำให้ใครลำบากใจด้วย
7.อยู่ตัวคนเดียวก็เหมือนทำ Digital Detox
อีกหนึ่งข้อดีของการอยู่คนเดียวเลยก็คือไม่ต้องคอยเช็ก Notification ใน Social Media ว่าอีกฝ่ายจะตั้ง In Relationship กับเราไหม โพสต์ข้อความอะไรบ้าง จะไปไหน จะทำอะไร ทำไมถึงไม่บอกเรา เราจะสามารถใช้ชีวิตได้โดยปราศจากความกังวลใจกับโลกออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลากับการใช้มือถือทั้งวัน เหมือนกับได้ทำ Digital Detox ไปในตัวด้วย
8.EQ สูงขึ้น
ไม่น่าเชื่อเลยว่าการอยู่ตัวคนเดียวจะมีข้อดี คือ ทำให้ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) การตระหนักรู้และเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและคนรอบข้างสูงขึ้น จากการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างกว่า 1 ล้านคนโดยเว็บไซต์ TalentSmart พบว่า 90% ของกลุ่มที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด มักเป็นคนที่มี EQ และการตระหนักรู้ตัวเอง (Self – Awareness) สูง ซึ่งการตระหนักรู้ตัวเองนี้ต้องอาศัยการทบทวนและความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองอย่างละเอียด ซึ่งจะทำได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อได้อยู่ตามลำพังนั่นเอง
9.ทำงานให้สำเร็จได้ดียิ่งขึ้น
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ไว้ว่า ข้อดีของการอยู่คนเดียวคือช่วยทำให้เราสามารถโฟกัสกับงานได้ดีกว่าเมื่อช่วยกันหลายคน ซึ่งในความจริงแล้วแม้การระดมสมอง หรือ Brainstorm จะเป็นวิธียอดฮิต แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่ ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Texas A&M พบว่า การ Brainstorm ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ เพราะจะทำให้เกิดการครอบงำทางความคิด (Cognitive Fixation) สมาชิกในกลุ่มมักมีแนวโน้มที่จะยึดติดกับไอเดียของคนอื่น จนทำให้คิดอะไรใหม่ ๆ ไม่ค่อยออก การอยู่คนเดียวจึงสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ และนำไปสู่การมีโอกาสทำให้งานสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น
10.ได้พักจากการคอยทำให้คนรอบข้างมีความสุข
ในชีวิตเรามีผู้คนที่มีอิทธิพลต่อใจเราอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนรัก ครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกค้า ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่สร้างความเหนื่อยล้าให้ชีวิต เพราะเราต้องคอยพยายามทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกดี มีความสุขกับเราอยู่เสมอ ซ้ำร้ายหลายๆครั้งที่ความสัมพันธ์กับผู้คนเหล่านั้นกลับสร้างเรื่องบั่นทอนจิตใจ โดยที่ตัวเราเองไม่สามารถกำหนดอะไรได้เอง การอยู่ตัวคนเดียวนี่แหละจึงจะช่วยให้เราเหนื่อยน้อยลงได้มาก ๆ ข้อดีของการอยู่คนเดียวอย่างหนึ่งจึงอยู่ที่การทำให้เราได้พักจากการต้องคอยทำให้คนรอบข้างมีความสุข แล้วได้มีเวลาหันกลับมาสนใจกับความสุขของตัวเองบ้างซะที
เห็นไหมล่ะว่าการอยู่ตัวคนเดียวก็ไม่ได้แย่ หรือเศร้าเสมอไปนะ! ข้อดีของการอยู่คนเดียวทั้งหมดนี้มีทั้งด้านจิตใจ การใช้ชีวิต รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วย ฉะนั้นใครที่กำลังใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก็อย่าได้เศร้าไป ขอให้รู้ถึงความโชคดีในแบบที่คนมีคู่ไม่สามารถมีได้ และใช้ชีวิตคนเดียวที่มีอยู่นี้อย่างมีความสุขก่อนจะถึงวันหนึ่งที่ใครบางคนอาจเข้ามาขอแบ่งบางส่วนของชีวิตคุณไปดูแลนะ
