Productivity คือ

เผยเคล็ดลับทำงาน
เมื่อ
Productivity คือกุญแจไขสู่ความสำเร็จ | Advertorial

  • Productivity คือ การวัดความสำเร็จของการทำงานจากประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของทรัพยากรที่ใช้ ไม่ใช่แค่ปริมาณงานที่บรรลุ
  • ปัจจัยที่มีผลต่อ Productivity คือ สภาพแวดล้อม, กระบวนการ, สุขภาวะ และวัฒนธรรมองค์กร
  • วิธีการที่ง่ายที่สุดในการเพิ่ม Productivity คือ การเริ่มต้นปรับเปลี่ยนตนเอง ซึ่งอาจทำโดย การทบทวนวิธีการทำงานของตนเอง การกำหนดวันส่งงานที่แน่ชัด การจัดลำดับความสำคัญของงาน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การรู้ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการทำงาน และการพักผ่อนอย่างเหมาะสม

กำลังรู้สึกเบื่อกับงานเดิมที่วนลูปอยู่หรือไม่? เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราทำงานหนักขึ้นแต่ผลลัพธ์กลับน้อยลง วันนี้เราจะพาไปไขคำตอบกันว่าแนวคิด Productivity คืออะไร และจะทำอย่างไรเพื่อเพิ่ม Productivity ได้อย่างง่ายดาย

ทำความรู้จัก Productivity คืออะไร?

Productivity หรือ ผลิตภาพ คืออะไร

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้อธิบายว่า ผลิตภาพ หรือ Productivity คือ ตัวชี้วัดความสำเร็จในการทำงาน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับทรัพยากรที่ใช้ มากกว่าการวัดเพียงแค่ปริมาณงานที่ได้ แนวคิด Productivity ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในองค์กรต่าง ๆ เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดที่สามารถนำมาใช้ประเมินประสิทธิภาพของการทำงานได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม Productivity คือ ดาบสองคมที่อาจก่อให้เกิดความเครียดและนำไปสู่ภาวะ Burnout หากถูกกดดันให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลาได้เช่นกัน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Productivity คืออะไรบ้าง?

ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Productivity

1. สภาพแวดล้อมการทำงาน

จุดเริ่มต้นของการเพิ่ม Productivity คือ การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ห้องที่ปลอดโปร่ง เป็นระเบียบ และปราศจากสิ่งรบกวน ซึ่งช่วยให้มีสมาธิและจดจ่อกับงานได้ดียิ่งขึ้น

2. กระบวนการทำงาน

นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สิ่งสำคัญของการทำงานอย่างมี Productivity คือ การมีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน เป็นลำดับขั้น ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและทำให้งานลุล่วงได้เร็วยิ่งขึ้น

3. สุขภาวะของคนทำงาน

Productivity คือผลพวงของการมีสุขภาวะที่ดีทั้งด้านกายและใจของพนักงาน ซึ่งจะช่วยให้ทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะงานที่จำเป็นต้องใช้สมาธิหรือความสร้างสรรค์สูง

4. วัฒนธรรมองค์กร

วัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน ซึ่งจะทำให้พนักงานมีทัศนคติต่อการทำงานและมองว่าการทำงานอย่างมี Productivity คือ การบรรลุเป้าหมายขององค์กรไปด้วยกัน

การเพิ่ม Productivity คือสิ่งที่เริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง

เทคนิคการเพิ่ม Productivity

เมื่อรู้แล้วว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อ Productivity คืออะไรบ้าง จะเห็นได้ว่ามีหลายปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้และมีผลต่อ Productivity มากที่สุด คือ ตัวเราเอง

1. ทบทวนการทำงานของตัวเองและปรับเปลี่ยน

จุดเริ่มต้นสำคัญในการเพิ่ม Productivity คือ การเข้าใจเป้าหมายของตัวเอง และหาวิธีทำงานที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียด ควบคู่กับการพัฒนาตนเองผ่านการเรียนรู้ทักษะและแนวคิดใหม่ ๆ

2. ปักกำหนดส่งงานที่ชัดเจน

การกำหนดเวลาส่งงานที่ชัดเจน ช่วยให้เราจัดสรรเวลาและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีสมาธิจดจ่อกับงานและไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เนื่องจากหัวสำคัญของ Productivity คือ การทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายในระยะเวลาที่กำหนด ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด

3. จัดลำดับการทำงาน

เทคนิคสำคัญในการเพิ่ม Productivity คือการจัดลำดับความสำคัญของงาน เมื่อทราบกำหนดการที่แน่ชัดแล้ว โดยไม่ทำหลายงานพร้อมกัน ซึ่งจะให้ระยะเวลาการทำงานลดลงและจดจ่อกับงานแต่ละชิ้นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การทำลิสต์รายการงานที่ต้องทำ ยังช่วยให้เราสามารถติดตามความคืบหน้าของงานได้อย่างง่ายดาย และไม่ลืมงานสำคัญ

4. ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์

ในยุคดิจิทัลที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเพิ่ม Productivity คือ การปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น แอปพลิเคชันจัดการโครงการ ซอฟต์แวร์จัดการงาน และแอปจดบันทึก เพื่อนำมาใช้ในการทำงานให้ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5. รู้ Peak Performance Hours ของตัวเอง

นอกจากการค้นหาสไตล์การทำงานที่ตรงกับตนเองแล้ว Productivity คือ เรื่องของการค้นหาช่วงเวลาทำงานที่สมองทำงานได้ดีอีกด้วย เพราะถึงแม้ว่าทุกคนจะมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ว่าแต่ละคนจะมีช่วงเวลาที่ทำงานแล้วสมองแล่นแตกต่างกัน โดยอาจใช้เทคนิคนาฬิกาชีวิตตามลักษณะการใช้ชีวิตของสัตว์ 4 ชนิด ได้แก่ หมี สิงโต หมาป่า และโลมา ซึ่งจะช่วยให้จัดสรรเวลาทำงานได้อย่างสมดุล และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

6. การพักผ่อน

หลายคนอาจคิดว่าการเพิ่ม Productivity คือการตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างขันแข็ง จนหลายคนอาจละเลยการพักผ่อนไป แต่รู้หรือไม่ว่าการพักผ่อนก็เป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานอย่างมี Productivity จากการวิจัยพบว่าการหาเวลาพักสั้น ๆ ระหว่างทำงาน สามารถช่วยให้สมองผ่อนคลายและมีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น

เมื่อ Productivity คือ กุญแจไขสู่ความสำเร็จ การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้หมายถึงการทำงานให้มากที่สุด แต่หมายถึงทำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในเวลาที่มี การฝึกฝนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงานทีละนิด ก็อาจเห็นได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน หากยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรอาจลองใช้เทคนิคที่เราได้แนะนำไปลองปรับใช้ แล้วจะพบว่าการทำงานของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

SHARE

RELATED POSTS

เพราะอุปสรรคของการไปสู่เป้าหมายคือจิตใจที่ไม่แข็งแกร่ง ดังนั้นหากรู้เท่าทันและหาวิธีรับมืออย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเจองานยากขนาดไหนก็รับมือไหวแน่นอน…