รวมลิสต์ AI ช่วยทำงานที่ชาวออฟฟิศรู้ไว้สบายขึ้นแน่นอน
- AI ช่วยทำงานเป็นเทรนด์นวัตกรรมที่มาแรงมากในปัจจุบัน ด้วยข้อดีมากมาย เช่น ย่นเวลาการทำงาน ลดค่าใช้จ่ายในองค์กร และความแม่นยำของการทำงาน ทำให้หลายองค์กรได้เริ่มนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานรูปแบบต่าง ๆ
- นอกจากนี้ปัจจุบันยังมี AI ช่วยทำงานให้เลือกใช้ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานเขียน งานสื่อ แชตบอต หรือแม้กระทั่งฟีเจอร์ช่วยจดประชุม
- ในขณะเดียวกัน ความสะดวกสบายของการใช้ AI ช่วยทำงานก็กลับกลายเป็นความกังวลต่อผู้ใช้และองค์กรเช่นกัน เนื่องจาก AI ยังมีข้อจำกัดหลายด้านในการทำงาน ซึ่งต้องการการพัฒนาและเวลาในการเรียนรู้ชุดคำสั่งเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ในปี 2024 ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นับว่าเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโลกแห่งการทำงานที่เรียกได้ว่า AI ช่วยทำงานแทบจะมาเป็นตัวพลิกเกมเลยก็ว่าได้
บริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง อย่าง Alibaba, Facebook และ Apple ก็ได้เริ่มนำ AI มาช่วยในการทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อวิเคราะห์ตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการบริการลูกค้า ซึ่ง AI ช่วยทำงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงานอีกด้วย ดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่าในอนาคต AI ช่วยทำงานจะเข้ามามีบทบาทในหลาย ๆ ด้านมากยิ่งขึ้น
AI ช่วยทำงานดีกว่าจ้างคนจริงหรือ?
แม้ว่าในปัจจุบัน การใช้งาน AI ช่วยทำงานจะมีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางถึงประโยชน์และโทษของของการใช้ AI ว่าสามารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ และถึงแม้ผู้พัฒนาจะมีการปรับปรุงการทำงานของ AI ช่วยงานอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ก็ยังคงมีข้อจำกัดในหลายด้าน และดูเหมือนว่า AI ก็จะยังคงเป็นเพียงเครื่องมือที่จะเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของมนุษย์เท่านั้น แต่การที่จะให้ AI เข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์แบบ 100% นั้น ยังเป็นเส้นทางที่ไกลอีกมาก ทั้งนี้ AI ช่วยทำงานก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งควรที่จะรู้ก่อนเพื่อการใช้งานอย่างเหมาะสม
ข้อดีของการใช้ AI ช่วยทำงาน
- AI ช่วยทำงานที่มีรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ ให้กลายเป็นการทำงานรูปแบบอัตโนมัติ เนื่องจากธรรมชาติของ AI มักจะทำงานที่มีขั้นตอนชัดเจนได้ดี เช่น การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้ลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำในการทำงานได้
- AI ช่วยทำงานสามารถลดข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจมองข้ามไป หรือที่เรียกว่า Human Error ได้ โดยเฉพาะในการทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง เช่น การเขียนโค้ด
- AI ช่วยทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องการเวลาพัก เหมาะสำหรับงานบางประเภทที่ต้องการการตอบสนองตลอดเวลา เช่น การตอบกลับบนระบบสนับสนุนลูกค้า หรือการตรวจจับสัญญาณชีพจรของผู้ป่วย
- AI ช่วยทำงานในขั้นพื้นฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการลดภาระของพนักงานในการวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณมาก
- การวิเคราะห์ข้อมูลของ AI ช่วยทำงานสามารถอุดรอยรั่วของการตัดสินใจของมนุษย์ที่อาจถูกครอบงำด้วยอารมณ์หรืออคติได้ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีเหตุผลยิ่งขึ้นจากสถิติและข้อเท็จจริงประกอบ
- AI ช่วยทำงานที่มีความเสี่ยงอันตรายแทนมนุษย์ได้ เช่น งานขุด เจาะ หรือสำรวจพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความปลอดภัยมากขึ้น
ข้อเสียของการใช้ AI ช่วยทำงาน
- เมื่อเทียบกับมนุษย์ AI ช่วยทำงานอาจมีความคิดสร้างสรรค์น้อยกว่า และไม่เข้าใจบริบท อารมณ์ หรือประสบการณ์ของมนุษย์ เนื่องจากมีฐานข้อมูลที่จำกัด อาจเห็นบ่อยจากการให้ AI ช่วยตอบแชตบอตที่ใช้ภาษาไม่เป็นธรรมชาติ หรือการสร้างภาพมนุษย์ด้วย AI ที่มีอวัยวะผิดรูปร่าง
- แม้ว่าข้อดีสำคัญของการใช้ AI ช่วยทำงานคือ การช่วยลดต้นทุน แต่รู้หรือไม่ว่าการคิดค้นและพัฒนาระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพกลับใช้งบประมาณสูงลิ่ว หลายบริษัทจึงเลือกที่จะใช้ AI ช่วยทำงานที่มีอยู่แล้วมากกว่าการคิดค้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งนั่นอาจทำให้มีข้อจำกัดในการใช้งานหลายด้าน
- การใช้ AI ช่วยทำงานที่ได้รับการป้อนข้อมูลที่มีอคติอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความลำเอียง และส่งผลกระทบต่อการทำงานในระยะยาวได้
- ขาดความยืดหยุ่นด้านความคิด แม้ว่า AI ช่วยทำงานจะสามารถประมวลผลได้เร็วกว่ามนุษย์ แต่อาจจะไม่สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่ได้เร็วเท่ามนุษย์ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เวลาเรียนรู้ชุดข้อมูล
- หนึ่งในข้อกังวลใหญ่ของการใช้ AI ช่วยทำงาน คือ อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการใช้ AI แทนที่แรงงานมนุษย์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและก่อให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน
AI ช่วยทำงานแบบไหนที่คุณมองหา
วันนี้ Short Recap ได้รวบรวม AI ช่วยทำงานประเภทต่าง ๆ มาให้ทุกคนได้เลือกใช้แบบครบครัน เพื่อการทำงานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยลดภาระการทำงานที่ไม่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เป็นอย่างดี
AI ช่วยทำงานแชตบอตตอบคำถาม
ChatGPT เป็นหนึ่งใน AI ช่วยทำงานของบริษัท OpenAI ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ โดยมีคุณสมบัติในการตอบคำถามที่หลากหลายด้าน เช่น การเขียนโค้ด งานเขียน สูตรอาหาร เป็นต้น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานภาษาไทย
Claude เป็น AI แชตบอตของบริษัท Anthropic ที่หลายคนบอกว่าฉลาดกว่า ChatGPT เนื่องจากมีการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ และหากพบว่าข้อมูลที่มีอยู่นั้นขาดความน่าเชื่อถือ ระบบก็เลือกที่จะตอบว่าไม่รู้มากกว่าที่คาดเดาคำตอบ รวมถึงมีความเข้าใจชุดคำสั่งภาษาไทยได้เป็นอย่างดีและสามารถใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Microsoft บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกได้มีการพัฒนา AI ช่วยทำงานที่มีชื่อว่า Bing AI เพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบแชตบอตที่ตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว และมีการเชื่อมต่อกับ DALL·E 3 เพื่อให้ตอบคำถามได้ทั้งรูปแบบข้อความและรูปภาพ
Zapier Central เป็น AI ช่วยทำงานที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อปรับแต่งฟีเจอร์ที่ต้องการได้ผ่านแชตบอต โดยสามารถทดลองใช้งานได้ฟรีในช่วง 14 วันแรก และเลือกแผนการได้ตามจำนวน Task ที่ต้องการ
AI ช่วยทำงานด้านงานเขียน
Jasper เป็น AI ช่วยทำงานเขียนคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบ เช่น อีเมล โฆษณา บทความ โพสต์สำหรับโซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมฟีเจอร์ค้นหาแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลิตงานเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาอันรวดเร็ว
Copy.ai เป็น AI ช่วยทำงานที่ทำหน้าที่เหมือนผู้ช่วยนักเขียน ที่สามารถใช้ชุดคำสั่งสำเร็จรูปสำหรับการเขียนบทความ การเขียน Copywrite การเขียนสคริปต์ หรือการเขียนอีเมลได้
Anyword เป็น AI ช่วยทำงานด้านงานเขียนที่ใช้งานง่าย ด้วยหลากฟีเจอร์การทำงานที่เป็นขั้นตอน เริ่มต้นจากการป้อนคำเพื่อให้ AI ช่วยคิดเนื้อหาและปรับเค้าโครงได้ตามที่ต้องการ รวมถึงรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เช่น โพสต์สำหรับโซเชียลมีเดีย อีเมลการตลาด การวางแผนทางการตลาด เป็นต้น
NotionAI เป็นอีกหนึ่ง AI ช่วยทำงานด้านงานเขียนที่มีฟีเจอร์ครบครันและตอบโจทย์เหล่านักเขียนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การช่วยสรุปเนื้อหา การตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ และการช่วยเขียนคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งอีเมล บล็อก และแคปชัน
AI ช่วยทำงานด้านสื่อภาพ เสียง และวิดีโอ
Descript เป็น AI ช่วยทำงานที่จะทำให้การตัดต่อคลิปวิดีโอเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการถอดเทปคลิปวิดีโอออกมาเป็นตัวอักษรที่ผู้ใช้งานสามารถตัดส่วนที่ไม่ต้องการตามไทม์ไลน์ได้โดยไม่ต้องย้อนดูคลิป
DALL·E 3 จาก OpenAI ผู้คิดค้น ChatGPT เป็น AI ช่วยทำงานที่สามารถสร้างภาพที่มีความสมจริงได้ง่าย ๆ เพียงแค่ป้อนชุดคำสั่ง และปรับแต่งรูปแบบได้ตามต้องการ
Murf เป็น AI ช่วยทำงานที่จะเปลี่ยนตัวอักษรให้เป็นเสียงคนด้วยการใช้ AI พากย์ พร้อมฟังก์ชันในการปรับแต่งเสียงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ หรือโทนเสียง
Supercreator นับว่าเป็น AI ช่วยทำงานที่ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อสร้างวิดีโอสั้นซึ่งเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ โดย AI จะช่วยทำงานตั้งแต่ขั้นตอนการเขียนสคริปต์ เลือกภาพ ไปจนถึงการเขียนแคปชัน เรียกได้ว่าสามารถผลิตเนื้อหาได้ง่ายในปลายนิ้ว
AI ช่วยทำงานจดประชุม
หมดกังวลเรื่องการฟังประชุมไม่ทันได้เลย ด้วย Firefiles เครื่องมือ AI ช่วยทำงานที่จะถอดเสียงบทสนทนาออกมาเป็นตัวอักษร พร้อมทั้งสรุปการประชุมออกมาได้อย่างเสร็จสรรพ
Airgram เป็น AI ช่วยทำงานที่มีคุณสมบัติในการถอดเสียงเช่นเดียวกับ Firefiles แต่มีฟีเจอร์การใช้ AI ช่วยตัดข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกเพื่อช่วยจัดระเบียบเนื้อหาเพิ่มขึ้นมา
MeetGeek เป็น AI ช่วยทำงานที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ใช้ในการประชุม เช่น Zoom, Google Meets และ Microsoft Teams เพื่อช่วยจดบันทึกการประชุมได้แบบเรียลไทม์ และเมื่อจบการประชุมก็สามารถสรุปใจความสำคัญให้ได้อย่างรวดเร็ว
Otter.ai เป็น AI ช่วยทำงานด้านการจดประชุมที่เหนือขั้นยิ่งกว่าด้วยฟีเจอร์การถอดเทปที่สามารถระบุตัวผู้พูดได้ พร้อมทั้งรองรับการใช้คำศัพท์เฉพาะในแต่ละอุตสาหกรรมอีกด้วย
ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมี AI ช่วยทำงานหลากหลายประเภท แต่โลกของการทำงานก็ยังคงต้องการแรงงานมนุษย์เพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ มนุษย์ก็ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา AI ให้สมบูรณ์แบบและลดข้อผิดพลาดให้การทำงาน รวมถึง งานประเภท AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้แบบ 100% ดังนั้น เพื่อรับมือกับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว มนุษย์จึงจำเป็นต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้ปรับตัวและแข่งขันกับ AI เหล่านี้ให้ได้ในอนาคต
