Search
Close this search box.
Kindom Season 2 ซอมบี้หิว

รีวิว Kingdom Season 2
: เบื้องบนกินอิ่ม เบื้องล่างหิวโหย

  • Kingdom ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด Season 2 คือ ภาพสะท้อนของประชาชนไม่สามารถเลือกกินได้ จนต้องกินเนื้อคนด้วยกันเอง และกลายเป็นซอมบี้ ถ้าในชีวิตจริงคงจะเปรียบเหมือนกับการกินอาหารที่ไม่สะอาดหรือไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นสาเหตุให้คนติดเชื้อโรคจนกลายเป็นโรคระบาด
  • สภาพร่างกายของซอมบี้ที่หลุดลุ่ย ทรงผมกระเซอะกระเซิง เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น บ่งบอกถึงการไม่มีสุขภาพหรือความเป็นอยู่ที่ดี มีเพียงแค่ความหิวโหยที่ไร้สติ สัญชาตญาณของความอยู่รอดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นชนชั้นล่างที่ไม่มีทางเลือก
  • อำนาจคือสิ่งที่ปกปิดความกลัวได้มิดชิดที่สุด เพราะมันสามารถใช้ข่มขู่เพื่อให้ผู้อื่นกลัวเราได้

หลังจากรอคอยซีรีส์ในดวงใจมาเป็นเวลา 2 ปี บอกเลยว่าไม่เสียดายกับ Kingdom Season 2 สักนิด โดยเฉพาะการคลายปมเรื่องที่มาของเชื้อระบาดที่ได้ขมวดไว้ในซีซันแรก ว่าทำไมช่วงหลังซอมบี้พวกถึงไม่กลัวแดด แล้วสมุนไพรคืนชีพที่ว่ามีส่วนทำให้คนติดเชื้อได้ยังไง ซึ่งในซีซันที่ 2 นี้ก็ได้เฉลยไว้แล้ว รวมไปถึงเหตุการณ์ที่หมอหญิงซอบียังได้ค้นพบวิธีเอาเชื้อออกเมื่อโดนซอมบี้กัดอีกด้วย

แต่ประเด็นสำคัญที่เราสนใจและอดพูดถึงไม่ได้ คือทั้งใน Kingdom Season 1 และ 2 ต้องการนำเสนออะไรหรือ Represent อะไรกันแน่? สุดท้ายก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการเมืองการปกครอง ที่อาจจะเป็นภาพสะท้อนของประเทศใดประเทศหนึ่ง รวมถึงโรคระบาดที่มาประจวบเหมาะกับสถานการณ์ Covid-19 พอดี มาดูกันว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ สะท้อนสังคมอย่างไร

Kindom Season 2 ซอมบี้ซึ่งเป็นภาพแทนของความน่าเห็นอกเห็นใจและความบากลำบาก

ซอมบี้ ภาพสะท้อนของความน่าเห็นอกเห็นใจ
ความลำบากตรากตรำ
—- Neal, (2015) —-

ก่อนที่ซอมบี้ใน Kingdom จะกลายเป็นภาพแทนของภัยพิบัติและหายนะที่มนุษย์กังวลและหวาดกลัวเช่นนี้ มันเคยเป็นภาพแทนของความน่าเห็นอกเห็นใจ ความลำบากตรากตรำ สภาพร่างกายที่หลุดลุ่ย ทรงผมกระเซอะกระเซิง เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น หน้าตาเกรอะกรัง

ซึ่งความไม่น่าอภิรมย์ทั้งหลายนี้ คือลักษณะที่บ่งบอกถึงการไม่มีสุขภาพหรือความเป็นอยู่ที่ดีเลย มีเพียงแค่ความหิวโหยที่ไร้สติ พฤติกรรมดิบเถื่อน ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชนชั้นล่างเสียมากกว่า เพราะไม่มีทางเลือกที่จะทำให้ชีวิตตัวเองดีกว่านี้ได้ มีเพียงสัญชาตญาณของความอยู่รอดเท่านั้นที่ต้องทำงานต่อไป

Kingdom Season 2 การปกครองที่คนเบื้องบนกินอิ่ม แต่เบื้องล่างหิวโหย คือการปกครองจริงหรือ

การปกครองที่เบื้องบนกินอิ่มนอนหลับ
แต่เบื้องล่างหิวโหยจนนอนไม่ได้ คือการปกครองจริงหรือ

ถ้าพูดกันตามตรงความเหลื่อมล้ำใน Kingdom นั้นเด่นชัดมาก ใครอยู่สูงคือรอด ได้กินดีอยู่ดี ส่วนคนเบื้องล่างอดตาย สุขภาวะย่ำแย่ เพราะไม่มีอาหาร หากเปรียบเทียบกับชีวิตจริง คนที่มีความเป็นอยู่ที่ดี เรารู้อยู่แล้วว่ามักจะถูกจำกัดอยู่ในเขตเมืองหลวงเท่านั้น ส่วนประชาชนที่อยู่นอกเมืองหรือต่างจังหวัดแทบจะไม่มีกิน เพราะมีคนที่ดึงผลประโยชน์ไว้กับตัวเอง ไม่กระจายลงสู่ประชาชน

แย่ที่สุดคงเป็นการที่ประชาชนไม่สามารถเลือกกินได้ จนต้องกินเนื้อคนด้วยกันเอง แล้วกลายเป็นซอมบี้ ถ้าเป็นชีวิตจริงก็คงเหมือนกับการกินอาหารที่ไม่สะอาดหรือไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นสาเหตุให้คนติดเชื้อโรคจนกลายเป็นโรคระบาด

ด้วย Kingdom เป็นซีรีส์ที่นำเสนอรูปแบบซอมบี้แนวใหม่ จากที่เคลื่อนไหวเชื่องช้ากลับวิ่งเร็วกว่ามนุษย์ ตรงนี้อาจทำให้เข้าใจได้ว่าเชื้อโรคสามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่คนจะเป็นโรคระบาดกันมากขึ้น อย่างสถานการณ์ Covid-19 ที่กำลังรุนแรง และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้

Kingdom Season 2 ความกลัวทำให้เราอยากมีอำนาจ ขณะเดียวกันเราก็ใช้อำนาจขมขู่ให้ผู้อื่นกลัว

 “ความกลัวทำให้เราอยากมีอำนาจ
ขณะเดียวกันเราก็ใช้
อำนาจขมขู่เพื่อให้ผู้อื่นกลัว”

ในอีกมุมหนึ่งซีรีส์ Kingdom Season 2 ก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของ “โจฮักจู” อัครเสนาบดีผู้กุมอำนาจเบื้องหลังบัลลังก์อยู่เหมือนกัน การกระทำของเขาคือการแสวงหาอำนาจและการยอมรับ วางอำนาจอยู่เหนือราชา เพราะเชื่อว่าการมีอำนาจจะไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้ จึงแต่งตั้งให้ลูกสาวตัวเองขึ้นมาเป็นมเหสี หวังจะให้มีทายาทที่เป็นเชื้อพระวงศ์กับนามสกุลของตัวเอง เพื่อที่จะได้เรียกร้องสิทธิในการปกครอง มีอำนาจในการควบคุมทุกอย่าง และกำจัดคนที่ไม่เห็นด้วย

อีกตัวละครที่อดพูดถึงไม่ได้คือ “มเหสีโจ” หญิงสาวผู้ที่มีปมแค้นในใจ เพราะถูกพ่อตัวเองด่าว่าเป็นนังตัวดีมาตลอด ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ จึงอยากจะพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าแม้จะเป็นลูกสาว แต่ก็อยู่จุดสูงสุดได้เหมือนกัน จนกลายเป็นผู้โหยหาอำนาจไม่จบไม่สิ้น และใช้มันเข่นฆ่าผู้คนอย่างเลือดเย็น โดยเฉพาะหญิงสาวท้องแก่และเด็กทารก

ซึ่งตามหลักจิตวิทยาแล้ว การกระทำของมเหสีโจนั้นคือกลไก­การป้องกันตนเองอย่างหนึ่งจากความกลัว เห็นนั่งอุ้มลูกนิ่ง ๆ ในท้องพระโรงก็ใช่ว่านางจะไม่กลัวซอมบี้นะ แต่นางถือว่านางบรรลุเป้าหมายและไม่มีอะไรจะเสีย แถมรู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางรอด ตายในฐานะที่ตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุดก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีแล้ว

พฤติกรรมของตัวละครตัวคนนี้ก็พอจะแสดงให้เห็นแล้วว่า ผู้ที่มีอำนาจทั้งหลาย ส่วนใหญ่ต่างก็เคยกลัวกันทั้งนั้น เลยจำเป็นต้องแสวงหาอำนาจเพื่อคุ้มครองตัวเอง และครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้อำนาจเหล่านี้ข่มขวัญรังแกผู้ที่ด้อยกว่า เพื่อไม่ให้ใครมารุกรานความเป็นอยู่ของตน เพราะได้เรียนรู้ความสุขสบายจากอำนาจเหล่านั้นแล้ว

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ถือว่า Kingdom กลายเป็นวรรณกรรมที่เป็นภาพสะท้อน (Represent) ของสังคมได้อย่างดี แต่สุดท้าย Kingdom Season 2  ก็ยังทิ้งปมไว้ให้คนดูสงสัย ไม่ว่าจะเป็นการที่ซอมบี้พวกนี้กลัวอุณหภูมิสูง แต่เมื่อถูกต้มด้วยความร้อนแล้วทำไมเชื้อไม่ตาย

หรือแม้แต่การมั่นใจว่าองค์รัชทายาทตัวน้อยไม่ติดเชื้อแน่ ๆ แต่เวลาผ่านไป 7 ปี ทำไมมีพยาธิชอนไชอยู่บนใบหน้า รวมถึงตัวละครหญิงสาวปริศนาในตอนท้าย ที่ก็เดาไม่ได้ว่าจะมาดีหรือมาร้าย ซึ่งในซีซันที่ 3 ปมทุกอย่างจะถูกคลายลงหรือไม่ คงต้องรอติดตามกันต่อไป

SHARE

RELATED POSTS