![เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/_cover_web-p9nhxusf2ig73xhwnnh8trgymezu02w8rga0l756b4.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า
เทรนด์เทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาเยือนในอนาคต
โลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดและมาเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งเราก็ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมานานแล้ว แต่ยังไม่ใช่รถ EV และ FCEV เท่านั้นเอง และการจะให้ไทยหันไปใช้รถไฟฟ้าประเภทนี้กันเยอะ ๆ ตอนนี้ก็ยังเป็นไปได้ยากด้วย เพราะอะไรไปดูกัน
ทำไมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมีแนวโน้มเป็นไปได้ยาก
การใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังคงต้องมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน เช่น
1. การชาร์จไฟที่บ้าน
การใช้รถยนต์ไฟฟ้าใช่ว่าจะเสียบปลั๊กแล้วชาร์จเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ยังคงต้องมีความพร้อมในด้านในการติดตั้งหัวชาร์จที่บ้าน และการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับชาร์จไฟต้องได้รับมาตรฐานจากผู้เชี่ยวชาญ หม้อแปลงที่บ้านต้องมีขนาด 15(45) A ขึ้นไปด้วย โดยการชาร์จจะมี 3 แบบ
1.1 การชาร์จแบบเร็ว (Quick Charger) มักใช้ตามสถานีชาร์จ จ่ายไฟกระแสตรง ใช้เวลาประมาณ 0.5 – 1 ชั่วโมง จากแบตเตอรี่ 0 – 80% ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ
1.2 การชาร์จธรรมดา แบบ Double Speed Charge มักติดตั้งตามบ้านหรือห้าง จ่ายไฟเป็นกระแสสลับ ใช้เวลาประมาณ 4 – 7 ชั่วโมง ขึ้นกับรุ่นรถและกำลังของเครื่องชาร์จ (Wall box)
1.3 การชาร์จธรรมดา แบบ Normal Charge มักติดตั้งตามบ้าน ใช้เวลาประมาณ 12 – 15 ชั่วโมงถึงจะชาร์จเต็ม ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ
2. สถานีชาร์จไฟตามจุดต่าง ๆ
ปัจจุบันยังถือว่ามีน้อยมาก ๆ อาจจะด้วยปัจจัยด้านราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังราคาสูง ทำให้คนยังไม่นิยมหันมาใช้กันเท่าไร หากในอนาคตราคาถูกลงจนเอื้อมแตะไหว ก็มีแนวโน้มที่จะมีสถานีชาร์จไฟเพิ่มขึ้น ตอนนี้เริ่มมีสถานีชาร์จทั้งของการไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, ปั๊มน้ำมัน ปตท., บางจาก ล่าสุด BMW และ Mercedes-Benz ก็ร่วมมือกับเอกชนรายอื่นติดตั้งสถานีชาร์จด้วยเช่นกัน
3. การผลิตพลังงานไฟฟ้า
เมื่อคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แน่นอนว่าการผลิตกระแสไฟฟ้าต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้แรงดันไฟฟ้าตก โหลดเกิน ความถี่ของไฟฟ้าที่จ่ายเปลี่ยนแปลง ทำให้ผู้ผลิตหรือส่งไฟฟ้าต้องเตรียมตัวลงทุนแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงรัฐบาลเองก็ต้องพัฒนาระบบบริหารการใช้ไฟฟ้าในอนาคตด้วยเช่นกัน
รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท
![รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle, HEVs)](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2021/07/รถยนต์ไฟฟ้า_01.jpg)
1. รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle, HEVs)
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้น้ำมันร่วมกับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะประหยัดน้ำมัน เครื่องไม่ต้องทำงานหนักเท่ารถที่ใช้น้ำมันอย่างเดียว ช่วงที่ออกตัวหรือรถอยู่นิ่งแต่เปิดแอร์และเครื่องเสียง รถจะใช้พลังงานจากแบตเตอรีเท่านั้น (ถ้าประจุไฟฟ้าพอ) แต่ช่วงที่เราเร่งความเร็วเครื่องยนต์จะทำงานควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้า และเมื่อกลับมาวิ่งด้วยความเร็วคงที่ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้พลังงานแบตเตอรีได้ และขณะเดียวกันตอนเครื่องติดและตอนเบรกก็จะชาร์จประจุไฟแบตเตอรีไปด้วย
รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดที่เราเห็นกันทั่วไป เช่น Toyota Camry, Honda Accord, Toyota C-HR
![รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid, PHEV)](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2021/07/รถยนต์ไฟฟ้า_02.jpg)
2. รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid, PHEV)
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาต่อมาจากแบบไฮบริด ยังคงใช้น้ำมันร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า แต่พิเศษกว่าตรงที่เราสามารถชาร์จไฟที่บ้านหรือตามสถานีได้ ถ้าวิ่ง 20-50 กิโลเมตรต่อวันแทบไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเลย กลับไปชาร์จที่บ้านเอา แต่ยังไงก็ต้องมีน้ำมันค้างถังไว้เผื่อฉุกเฉิน
ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด เช่น Toyota Prius Plugin Hybrid, Mercedes Benz A250e
![](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2021/07/รถยนต์ไฟฟ้า_03.jpg)
3. รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรีอย่างเดียว (Electric Vehicle, EV)
หรือที่เราเรียกกันว่ารถ EV นั่นเอง แบตเตอรีจะขนาดใหญ่กว่าแบบ PHEV เพราะไม่มีการใช้น้ำมันควบคู่แล้ว ข้อดีคือช่วยลดมลภาวะ เพราะไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ จึงไม่มีควันไอเสีย แถมเสียค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า เพราะไม่มีเครื่องยนต์ ไม่ต้องถ่ายน้ำมันเครื่อง แต่วิ่งได้กี่กิโลเมตรขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่น
ถ้าเป็น FOMM-ONE อาจจะวิ่งได้ไกลสุด 160 กิโลเมตร โหด ๆ หน่อยก็ Jaguar i-Pace วิ่งได้ 543 กิโลเมตร แต่ต้องยอมรับว่าการใช้รถ EV ในไทยยังไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก เพราะสถานีชาร์จไฟยังมีน้อย ถ้าไฟหมดกลางคันคือจบเลย แถมใช้เวลาชาร์จนาน หัวชาร์จธรรมดาต้องชาร์จนาน 6-8 ชั่วโมง แบบเร็วสุดก็ 0.5-3 ชั่วโมง
ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าแบบ EV เช่น Tesla, MG ZS EV, Mini Electric
![4. รถยนต์ไฟฟ้าแบบพลังงานไฮโดรเจน (Fuel Cell Electric Vehicle, FCEV)](https://shortrecap.co/wp-content/uploads/2021/07/รถยนต์ไฟฟ้า_04.jpg)
4. รถยนต์ไฟฟ้าแบบพลังงานไฮโดรเจน (Fuel Cell Electric Vehicle, FCEV)
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเช่นเดียวกับรถ EV แต่ไฟฟ้าที่นำมาใช้ได้มาจากการเติมไฮโดรเจนแล้วแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะได้ไอเสียเป็นไอน้ำ แต่ไม่เป็นมลพิษ ใช้เวลาการเติมแค่ 5 นาที วิ่งได้เกิน 300 กิโลเมตร ลบจุดด้อยของ EV ไปได้ แต่ยังไงก็ยังมีข้อด้อยตรงที่การสร้างสถานีเติมไฮโดรเจนต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก รวมถึงความปลอดภัยของถังกักเก็บไฮโดรเจนในรถที่อาจสูงถึง 700 บาร์ เมื่อเทียบกันแล้ว EV ดูเหมือนจะมีความพร้อมขายมากกว่า FCEV
ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้า FCEV เช่น Toyota Mirai
ถึงแม้การใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องราคา สถานีชาร์จ ระยะเวลาชาร์จ และเรื่องพลังงานไฟฟ้าที่ต้องรองรับ แต่อีกไม่นานข้อจำกัดเหล่านี้อาจค่อย ๆ หายไป เพราะหลายแบรนด์ก็เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้นด้วยแนวคิดเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นทุกที่เต็มไปด้วยสถานีชาร์จไฟ ผู้คนขับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มบ้านเต็มเมืองก็ได้
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนหรือคนทั่วไปที่อยากหาความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เนื้อหาทันสมัย ละเอียด เข้าใจง่าย สามารถเข้าไปหาความรู้ได้ที่ คลังความรู้ Scimath สสวท. มีหลากหลายอย่างให้เลือกดูเลย ทั้งบทความ บทเรียน วีดิทัศน์ โครงงาน E-books และอื่น ๆ อีกมากมาย