บอกครบ! “เลี้ยงไก่ไข่ไว้กินเอง”
เริ่มจากไหน ดูแลไก่ยังไงบ้าง
- สำหรับใครที่อยากเลี้ยงไก่ไข่ไว้กินเอง สายพันธุ์ไก่ไข่ที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุดมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ โรดไทย บาร์พลีมัทร็อก และเลกฮอร์นขาวหงอนจักร ฯลฯ
- การสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ควรเน้นพื้นที่ที่เป็นลานกว้าง ๆ ให้ไก่ได้คุ้ยเขี่ยตามธรรมชาติ แม่ไก่จะได้อารมณ์ดี และออกไข่ดก ๆ
- สำหรับอาหารของไก่ไข่สามารถให้อาหารสำเร็จรูปได้เลย จะเป็นรำผสมกับปลายข้าวก็ได้ และควรเสริมเศษผัก เศษอาหาร ผลไม้สุกตามฤดูกาลให้ไก่ด้วย
- ไก่ไข่สามารถออกไข่ได้ถึง 3 ปี โดยจะลดน้อยลงหลังจาก 1 ปีแรกที่ออกไข่ นอกจากนี้ อากาศที่ร้อนเกินไปยังทำให้ไก่ออกไข่ได้น้อยลง
รู้ไหม ? การเลี้ยงไก่ไข่ไว้กินเองทำให้เราได้กินไข่ที่สดใหม่ เหมือนกับคนญี่ปุ่นที่มักจะเก็บไข่อุ่น ๆ จากเล้ามาทำอาหาร เพราะให้คุณค่าทางโภชนาการสูง และยังประหยัดเงินซื้อไข่ได้ระยะยาวอีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม! แถมยังแฮปปี้ที่ได้เก็บไข่เองทุกวันอีก ฟินสุด ๆ เลี้ยงไก่ไข่ต้องเริ่มจากอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
3 สายพันธุ์ไก่ไข่ยอดนิยม
1. “โรดไทย” เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนามาจากโรดไอแลนด์เรด (Rhode Island Red) จากอเมริกา ตัวจะมีสีน้ำตาลแดงเข้ม ส่วนปลายหางมีสีดำอมเขียว เป็นไก่ไข่ที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยง ออกไข่ประมาณ 280 – 300 ฟอง/ ปี เปลือกไข่จะมีสีน้ำตาล
2. “บาร์พลีมัทร็อก” (Barred Plymouth Rock) เป็นสายพันธุ์ไก่ไข่ที่มาจากอเมริกาเหมือนโรดไอแลนด์เรด ลำตัวมีสีดำสลับขาวทั้งตัว ออกไข่ประมาณ 220 ± 21 ฟอง/ ปี
3. “เลกฮอร์นขาวหงอนจักร” (White Leghorn) มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี มีสีขาวทั้งตัว หงอนสีแดงสดใสคล้ายกงจักร ให้ไข่ดกมาก ประมาณ 280 – 300 ฟองต่อปี เปลือกไข่จะมีสีขาวเหมือนไข่เป็ด
ค่าตัวไก่
– ไก่ไข่สาวพร้อมไข่ (อายุ 17-18 สัปดาห์) ราคาตัวละ 165-185 บาท
– ไก่ไข่เด็กประถม (อายุ 6 สัปดาห์) ราคาตัวละ 60 บาท
– ไก่ไข่ทารก (อายุไม่เกิน 1 สัปดาห์) เพศผู้ตัวละ 2 บาท เพศเมียตัวละ 16 บาท
*ควรเลี้ยงไก่ไข่เพศผู้ 1 ตัว ต่อไก่ไข่เพศเมีย 5 ตัว
*ราคาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
การสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่
สำหรับการเลี้ยงไก่ไข่ไว้กินเอง โรงเรือนเลี้ยงไก่อาจจะไม่ต้องทำเหมือนรูปแบบฟาร์ม แต่เน้นเป็นลานกว้าง ๆ ให้ไก่ได้คุ้ยเขี่ยตามธรรมชาติ แม่ไก่จะได้อารมณ์ดี มีความสุข และออกไข่มามีคุณภาพ แต่ถ้ามีพื้นที่จำกัด ควรสร้างโรงเรือนที่มีขนาดเหมาะสมกับจำนวนไก่ไข่ที่เลี้ยง ต้องไม่อึดอัดจนเกินไป และอากาศถ่ายเทสะดวก
พื้นที่: 5 ตัว/ ตารางเมตร รอบโรงเรือนมีลานปล่อยอิสระ 10 -15 ตารางเมตร/ ตัว
ค่าโรงเรือน: ถ้าเป็นโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่เล็ก ๆ ควรเตรียมงบไว้อย่างน้อย 15,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่หาได้สะดวกในท้องถิ่นนั้น ๆ และค่าแรงในการจ้างคนสร้างโรงเรือนด้วย
ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ
– ถาดให้อาหารไก่ ราคาประมาณ 60 – 70 บาท
– รางอาหารไก่ ราคาประมาณ 50 – 60 บาท
– กระปุกให้น้ำไก่ ราคาประมาณ 40 บาท
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่
– การสร้างโรงเรือนเลี้ยงไข่ไก่ควรมีพื้นที่ให้ไก่หลบแดด/ หลบฝนได้
– หันหน้าโรงเรือนไปทางทิศตะวันออก
– มีรั้วป้องกันศัตรูและสัตว์พาหะ
– มีดินให้ไก่ขุดหลุม คลุกดินคลุกฝุ่น เพื่อทำความสะอาดร่างกายตัวเองจากไรแดง
– มีตะกร้า หรือบ็อกซ์ใส่ฟางไว้สำหรับให้ไก่ออกไข่
– มีไม้ยาวพาดในเล้าให้ไก่เกาะเวลานอน เพราะไก่จะไม่นอนหลับบนพื้นดิน
– โรยวัตถุรองพื้น เช่น แกลบ ทราย ฟางสับ เปลือกถั่ว ขี้เลื่อย โดยครั้งแรกให้ใส่ที่ความหนาประมาณ 3-4 ซม. นับจากพื้นดิน ต่อไปทุก 2-3 เดือน ให้ใส่เพิ่มอีก ครั้งละ 1-2 ซม. เพื่อซับอุจจาระให้แห้งอยู่เสมอ
– โรยปูนขาวบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อฆ่าเชื้อโรคและช่วยให้วัตถุรองพื้นแห้งยิ่งขึ้น หมั่นกวนกลับวัตถุรองพื้นทุก 4-5 สัปดาห์ เพื่อลดกลิ่นและความชื้นในโรงเรือน
– ปลูกผัก ผลไม้ ไว้ด้วยก็ดี นำมาเป็นอาหารเสริมให้ไก่ได้
อาหารของไก่ไข่
อาหาร:
สำหรับคนที่อยากเลี้ยงไก่ไข่ไว้กินเอง สามารถให้อาหารสำเร็จรูปได้เลย หรือจะให้รำผสมกับปลายข้าวก็ได้ อาจจะมีการเสริมเศษผัก เศษอาหาร ผลไม้สุกตามฤดูกาลให้ไก่ด้วย แนะนำตะขบ เพราะออกลูกทั้งปี ไก่ชอบกินมาก
น้ำ:
สามารถให้น้ำประปาได้ แต่ควรพักน้ำก่อน โดยการรองทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและให้คลอรีนระเหยจนหมด หากตั้งให้รับแสงแดดจะใช้เวลา 1-2 วัน
ค่าอาหาร
– อาหารสำเร็จรูป (30 Kg.) 450 บาท อยู่ได้ 45 วัน (สำหรับไก่ 15 ตัว)
– รำข้าว (1 Kg.) ประมาณ 9.50 บาท
– ปลายข้าว (1 Kg.) ประมาณ 11 บาท
การดูแลไก่ไข่
1. ไก่ไข่ที่อายุ 5 เดือนขึ้นไป ควรให้น้ำ 0.5 ลิตรต่อวัน หากขาดน้ำไข่จะฟองเล็ก
2. อาหารไก่ไข่ช่วงเริ่มให้ไข่ ควรให้ 1.5 – 2 ขีดต่อตัว
3. ทำความสะอาดเล้าไก่อยู่เสมอ อย่าให้มีกลิ่นเหม็นและอับชื้น เพื่อป้องกันไก่ติดเชื้อ *แนะนำให้โรยสเม็คไทต์บาง ๆ ทับมูลไก่หรือวัสดุรองพื้นในเล้า จะช่วยลดกลิ่น ไร พยาธิ และโรคหน้าบวมในไก่ได้
4. พื้นที่เลี้ยงไก่ควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก เนื่องจากไก่ไม่มีต่อมเหงื่อ จะระบายความร้อนได้จากการหายใจเข้า-ออกเท่านั้น
5. ถ่ายพยาธิไก่อย่างสม่ำเสมอ จะซื้อยาถ่ายพยาธิสำหรับไก่หรือใช้สูตรสมุนไพรตามบ้านก็ได้
6. ล้างรางและเปลี่ยนน้ำวันละ 1 ครั้ง
7. ควรให้วัคซีนโรคนิวคาสเซิล, โรคหลอดลมอักเสบ, โรคอหิวาต์ไก่ และโรคฝีดาษไก่ รวมถึงเสริมวิตามินต่าง ๆ เพิ่มด้วย
8. ควรมีตาข่ายคลุมกันยุงให้ไก่ตอนกลางคืน เพราะเป็นพาหะนำโรคบางชนิด
วิธีดูความพร้อมในการออกไข่
สามารถสังเกตได้จากหงอน ซึ่งจะใหญ่ขึ้น มีสีแดงสดใส และอ่อนนุ่ม
อีกวิธีหนึ่งคือให้กดหลังของไก่ ถ้าเขาฟุบลงแสดงว่าพร้อมออกไข่แล้ว แต่โดยเฉลี่ยไก่ไข่จะเริ่มให้ไข่ฟองแรกเมื่ออายุ 4 เดือนขึ้นไป
ไก่ไข่ออกไข่ได้กี่ปี
จริง ๆ แล้วไก่ไข่สามารถออกไข่ได้ถึง 3 ปีเลยทีเดียว แต่ฟาร์มไก่ไข่ส่วนใหญ่มักจะปลดระวางไก่หลังจากที่ออกไข่ไปแล้ว 12-18 เดือน เพราะหลังจากนี้จะออกไข่ได้น้อยลง และมองว่าได้ไม่คุ้มเสีย จึงขายเป็นไก่เนื้อแทน
ข้อควรรู้!
อากาศที่ร้อนเกินไปมีผลต่อการออกไข่ที่น้อยลง
ประโยชน์ของการเลี้ยงไก่ไข่ไว้กินเอง
1. ประหยัดเงินค่าซื้อไข่ระยะยาว
2. ได้กินไข่สด สะอาด ปลอดภัยจากฮอร์โมนเร่งไข่
3. หากไข่ไก่เยอะเกินไปจนกินไม่ทัน สามารถขายให้เพื่อนบ้าน เป็นรายได้เสริมได้
4. เมื่อปลดระวางไก่แล้ว ขายเป็นไก่เนื้อต่อได้
เห็นแบบนี้อยากเลี้ยงไก่ไข่ขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมล่ะ จะบอกว่าเลี้ยงไม่ยากเลย แล้วต้นทุนก็ไม่สูงมากด้วย เผลอ ๆ ถ้าผลลัพธ์ออกมาดี เราสามารถทำฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ขายไข่ได้เลยนะ ได้กินไข่สด ๆ อุ่น ๆ ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วยนะเนี่ย