ฉลากสิ่งแวดล้อม

รู้จักฉลากสิ่งแวดล้อม 3 ประเภท ซื้อผลิตภัณฑ์อย่างไรให้ Save โลก

  • ฉลากสิ่งแวดล้อม หรือ Eco-Labelling คือเครื่องหมายรับรองว่าสินค้าและบริการมีกระบวนการผลิตและการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ฉลากสิ่งแวดล้อม เป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยผู้บริโภคให้เลือกผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมได้อย่างสะดวกสบาย และมั่นใจยิ่งขึ้น
  • ฉลากสิ่งแวดล้อมมีทั้งหมด 3 ประเภท ตามมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยมีเกณฑ์การประเมินและกระบวนการในการรับรองที่แตกต่างกัน สำหรับฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 1 จะรับรองโดยองค์กรที่ไม่มีส่วนได้เสีย ในขณะที่ประเภทที่ 2 ผู้ผลิตและจำหน่ายสามารถออกการรับรองได้เอง โดยไม่ต้องมีองค์กรกลาง และประเภทที่ 3 จะต้องรับรองโดยหน่วยงานอิสระหรือองค์กรกลาง และผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 14040
  • นอกจากฉลากสิ่งแวดล้อมที่กล่าวไป 3 ประเภท ยังมีฉลากรักษ์โลกอื่น ๆ ที่เราคุ้นเคยกัน เช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โรงแรมใบเขียว เครื่องหมาย Organic Thailand เป็นต้น

ในปัจจุบัน แนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมจากการสัมผัสถึงผลกระทบรุนแรงเมื่อโลกของเราเริ่มเข้าสู่ภาวะโลกเดือด แต่ก็ยังมีหลายคนที่สงสัยว่าจะเลือกซื้อสินค้าอย่างไรจึงจะช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม วันนี้ Short Recap จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับฉลากสิ่งแวดล้อม ตัวช่วยที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมั่นใจว่าของที่จะใช้จะปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ฉลากสิ่งแวดล้อมคืออะไร

ฉลากสิ่งแวดล้อม คือ

ฉลากสิ่งแวดล้อม (Eco-Labelling) คือเครื่องหมายที่มอบแก่บริการหรือสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นที่ทำหน้าที่เดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการได้ด้วยความมั่นใจว่าจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ รวมถึงเป็นสินค้าและบริการที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานเนื่องจากมีการควบคุมคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO ที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ ทางด้านผู้ผลิตก็ได้รับผลประโยชน์จากการลดต้นทุนที่เกิดจากการลดทรัพยากร พลังงาน และของเสียในการผลิตสินค้าและบริการ

ประเภทของฉลากสิ่งแวดล้อม

ประเภท ฉลากสิ่งแวดล้อม

ตามมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมได้มีการแบ่งประเภทของสลากสิ่งแวดล้อมไว้ 3 ประเภท ดังนี้

  1. ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 1 (ISO 14024) เป็นฉลากที่แสดงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะให้การรับรองโดยองค์กรอิสระที่ไม่มีส่วนได้เสีย โดยใช้วิธีพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแบบตลอดวัฏจักรชีวิต ตัวอย่างของฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 1 ที่มีการออกในประเภทไทย คือ ฉลากเขียว โดยสถาบันสิ่งแวดล้อม
  2. ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 2 (ISO 14021) เป็นฉลากในรูปแบบข้อความหรือสัญลักษณ์ที่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย หรือผู้ส่งออกจะบ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแสดงค่าทางสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตนเองโดยไม่มีองค์การกลางในการดูแล แต่ผู้ผลิตสามารถประเมินผลได้เอง และจำเป็นต้องมีหลักฐานยืนยันหากมีผู้มาสอบถาม ยกตัวอย่างฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 2 เช่น PC Green Label เครื่องหมายรับรองความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดย The PC3R Promotion Center ประเทศญี่ปุ่น ที่มอบให้ผู้ผลิตสินค้าคอมพิวเตอร์
  3. ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 (ISO 14025) เป็นฉลากบ่งบอกถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยแสดงข้อมูลสิ่งแวดล้อมโดยรวมที่ประเมินจากผลกระทบตลอดวัฏจักร และต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 14040 ซึ่งจำเป็นต้องมีหน่วยงานอิสระหรือองค์กรกลางตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนประกาศรับรอง โดยฉลาก Ecoleaf โดยสมาคมการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อการอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในตัวอย่างของฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 ที่ได้มีการรับรองความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของสินค้าและบริการหลากหลายประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็ก พลาสติก การบริการจัดการขยะ เป็นต้น

นอกจากฉลากสิ่งแวดล้อมในระบบมาตรฐานการจัดการ ทั้ง 3 ประเภทข้างต้น ยังมีฉลากสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกใช้สินค้าและบริการได้ตรงความต้องการ เช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โรงแรมใบเขียว เครื่องหมาย Organic Thailand เป็นต้น

หลังจากได้รู้จักฉลากสิ่งแวดล้อมกันไปแล้ว ต่อจากนี้ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการอย่าลืมพลิกดูสักนิดว่ามีฉลากสิ่งแวดล้อมรับรองหรือไม่ การร่วมมือกันคนละนิดละหน่อยของเราเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้นไปได้อีกมาก

SHARE

RELATED POSTS