เทคนิคจัดตู้เสื้อผ้า Capsule Wardrobe เสื้อผ้าน้อย แมตช์ได้ลุคเยอะ
- Capsule Wardrobe คือเทคนิคการจัดตู้เสื้อผ้าให้เหลือเท่าที่จำเป็น แต่เป็นเสื้อผ้าที่แมตช์ลุคง่ายและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์
- จุดเด่นของการจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Capsule Wardrobe คือช่วยประหยัดเวลา ประหยัดเงิน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- อาจเริ่มต้นจัดตู้เสื้อผ้า Capsule Wardrobe ด้วยการคัดเลือกเสื้อผ้าชิ้นโปรดและไอเทมพื้นฐานจากเสื้อผ้าที่มีอยู่
- จากนั้นให้ลองแมตช์ลุคเตรียมไว้ล่วงหน้า เพื่อใช้เป็นไอเดียในการแต่งตัว และช่วยสำรวจว่ายังขาดไอเทมอะไรที่จำเป็นอีกบ้าง
- เทคนิคการจัดตู้เสื้อผ้านี้จะช่วยให้คุณลดเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็น และทำให้สามารถซื้อเสื้อผ้าคุณภาพสูงที่จำเป็นได้อีกด้วย
เบื่อไหม? เสื้อผ้าล้นตู้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะใส่อะไรดี? ชวนทำความรู้จักเทคนิค Capsule Wardrobe ที่จะช่วยมาเปลี่ยนชีวิต ด้วยการจัดตู้เสื้อผ้าให้เหลือน้อยชิ้น แต่สามารถแมตช์ได้หลายลุค ทั้งประหยัดเวลา ประหยัดเงิน และทำให้การแต่งตัวกลายเป็นเรื่องสนุกขึ้น
เทคนิคการจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Capsule Wardrobe คืออะไร?
Capsule Wardrobe คือแนวคิดการจัดตู้เสื้อผ้าที่มุ่งเน้นการคัดเลือกเฉพาะเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่จำเป็นและสามารถนำมาแมตช์กันได้อย่างหลากหลาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์และรูปร่างในปัจจุบัน โดยแนวคิดนี้จะช่วยลดจำนวนเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็น ช่วยแก้ปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ และลดความยุ่งยากในการเลือกชุด นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากเสื้อผ้าที่มีอย่างเต็มที่ พร้อมประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้าใหม่
จุดเด่นของ Capsule Wardrobe
ช่วยให้เลือกชุดง่ายขึ้น
เมื่อคุณจัดตู้เสื้อผ้าให้มีเสื้อผ้าในตู้น้อยลง การเลือกชุดที่จะใส่ในแต่ละวันก็จะง่ายและสนุกมากขึ้น แถมยังช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเสื้อผ้าเหมาะกับรูปร่างของตัวเอง
ประหยัดเงิน
เทคนิคการจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Capsule Wardrobe จะทำให้คุณเลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างรอบคอบมากขึ้น เพื่อมองหาเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้หลายโอกาสและคุณภาพดี จึงซื้อเสื้อผ้าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ประหยัดเวลา
การใช้เทคนิค Capsule Wardrobe จะทำให้คุณมีเวลาและพลังงานเหลือไปโฟกัสเรื่องอื่น ๆ มากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาไปกับการชอปปิงและคิดว่าจะต้องใส่อะไรดี
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การซื้อเสื้อผ้าน้อยลงจะช่วยลดผลกระทบต่อโลกได้ จากการปนเปื้อนสารเคมีในน้ำ ลดขยะจากเสื้อผ้าที่ถูกทิ้ง และลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนผลิตเสื้อผ้า
ได้เสื้อผ้าที่มีคุณภาพสูง
เมื่อไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าบ่อย ๆ คุณก็จะมีงบสำหรับการซื้อเสื้อผ้ามากขึ้น ส่งผลให้เข้าถึงเสื้อผ้าคุณภาพดีที่สามารถสวมใส่แล้วดูดี และทนทาน
วิธีการจัดตู้เสื้อแบบ Capsule Wardrobe
สำรวจตู้เสื้อผ้าที่มีอยู่
เริ่มต้นขั้นตอนแรกของการจัดตู้เสื้อแบบ Capsule Wardrobe ด้วยการรื้อเสื้อผ้าทั้งหมดที่มีออกมาวางเรียงบนเตียง เพื่อแยกเสื้อผ้าตัวโปรดออกมา และดูสไตล์ รูปทรง สี และเนื้อผ้าที่เหมาะสมกับคุณ จากนั้นจัดประเภทเสื้อผ้าเพื่อความสะดวก สำหรับเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่แล้ว ให้บริจาค ขาย หรือรีไซเคิล
เลือกเสื้อผ้าชิ้นโปรดที่จะเก็บไว้
หลังจากคัดแยกเสื้อผ้าแล้ว ให้เริ่มคัดเลือกเสื้อผ้าที่จะนำมาใช้ใน Capsule Wardrobe โดยคัดเลือกจากเสื้อผ้าพื้นฐาน 28-42 ชิ้น เช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้น กระโปรง เสื้อคลุม ชุดเดรส รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เป็นต้น ทั้งนี้ ควรเลือกเสื้อผ้าที่ใช้งานได้หลากหลายโอกาส ขึ้นอยู่กับสไตล์การแต่งตัวของแต่ละบุคคล
แมตช์ลุคประจำวันไว้ล่วงหน้า
หลังจากจัดตู้เสื้อผ้าใหม่แล้ว ลองแมตช์ลุคประจำวันล่วงหน้าไว้ 7-10 ลุค เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการแต่งตัว และทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
เทคนิคการจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Capsule Wardrobe
หาแรงบันดาลใจ
ลองหาไอเดียการแต่งตัวจากสไตล์ที่ใกล้เคียงกับเสื้อผ้าที่คุณมีในตู้ อาจมองหาจาก Pinterest หรือ Instagram
เริ่มจากเสื้อผ้าสักหนึ่งชิ้น
หยิบเสื้อผ้าชิ้นโปรดขึ้นมาสักชิ้น แล้วลองมิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ ในตู้ เพื่อครีเอตลุคใหม่ ๆ
ถ่ายรูปลุคที่ชอบเก็บไว้
เมื่อได้ลุคที่ถูกใจให้ถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วสร้างเป็นโฟลเดอร์เผื่อสำหรับวันที่คิดไม่ออกว่าจะแต่งตัวอย่างไรดี
ระบุสิ่งที่ขาดในตู้เสื้อผ้า
ขณะที่แมตช์ลุค อาจจะพบว่ายังขาดไอเทมที่จำเป็นบางอย่าง ให้จดบันทึกไว้และซื้อเพิ่มเมื่องบประมาณและเวลาเหมาะสม
ตัดเสื้อผ้าที่ไม่ตอบโจทย์
หากคุณพบว่าเสื้อผ้าบางชิ้นสามารถนำออกมาแมตช์ลุคได้แค่ 1-2 ลุค อาจจะลองทบทวนอีกทีว่าควรเก็บเสื้อผ้าชิ้นนั้นไว้หรือไม่
Capsule Wardrobe ไม่เพียงแต่การจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับมุมมองให้เห็นคุณค่าของความเรียบง่ายที่จะช่วยลดความยุ่งยากในการเลือกเสื้อผ้า แถมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกลุคที่คุณเลือก ลองเริ่มต้นจัดตู้เสื้อผ้าของคุณเลยวันนี้ แล้วจะพบว่าคุณสามารถมีความสุขกับการแต่งตัวแบบน้อยแต่มากได้ง่าย ๆ