รวม “แหล่งขายของมือสอง” (ออนไลน์ – ออฟไลน์)
ขายง่าย ได้เงินเพียบ
- แหล่งขายของมือสองออนไลน์ > Kaidee, Shopee, Lazada, TARAD, Facebook Group, Facebook Marketplace
- แหล่งขายของมือสองออฟไลน์ > ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์, ตลาดนัดปัฐวิกรณ์, ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน, ตลาดนัดนินจา อมตะนคร, ตลาดกลางบางแก้ว สมุทรสงคราม, ตลาดนัดเบิร์ดคลองถม ราชบุรี
เคยมีความรู้สึกข้าวของเต็มบ้าน เสื้อผ้าเต็มตู้ แต่เสียดายหรือไม่อยากทิ้งใช่ไหมล่ะ หรือบางทีมีของที่ใช้ไปแค่ครั้งสองครั้ง แต่ไม่อยากใช้แล้ว ลองเอามันไปขายเป็นมือสองดูสิ ถึงจะขาดทุนหน่อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ อย่างเสื้อผ้าขายแค่ตัวละ 50-100 บาท แต่หลายชิ้นรวมกันก็เป็นพันได้เลยนะ Short Recap เคยลองมาแล้ว ใครอยากรู้ว่าขายของมือสองได้ที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย (มีทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์)
เว็บไซต์ขายของมือสอง (ออนไลน์)
1. Kaidee
Kaidee ถือว่าเป็นแหล่งซื้อ-ขายของออนไลน์มือหนึ่งมือสองที่มีของหลากหลายที่สุด มีคนเข้าเว็บถึงวันละ 2 ล้านคนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นแหล่งซื้อขายของมือสองอันดับต้น ๆ เลย โดยมีสินค้าตั้งแต่รถยนต์มือสอง รถมอเตอร์ไซค์ อสังหาริมทรัพย์ โทรศัพท์มือถือ อะไหล่รถ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญคือลงขายฟรี!
ขายของมือสองที่ Kaidee : เข้า https://www.kaidee.com/ เลือก “ลงขาย” ที่มุมขวาบนของเว็บไซต์
2. Shopee
แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งปกติเรามักจะเห็นแต่ของมือหนึ่ง แต่รู้ไหมว่าที่นี่สามารถลงขายของมือสองได้ด้วยนะ ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากด้วย และยังมี Shopee Seller Centre ที่ช่วยให้เราขายได้อย่างมืออาชีพ ซึ่ง Shopee นั้นมีการจัดแคมเปญบ่อยมาก ดังนั้นจึงอาจมีโอกาสที่สินค้าเราจะได้เข้าร่วมและเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วยนะ
ขายของมือสองที่ Shopee : เข้า https://shopee.co.th/ เลือก“ขาย” ที่มุมซ้ายบนของเว็บไซต์
3. Lazada
หากอยากขายของมือสองที่ Lazada บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ลงสินค้าฟรี! ไม่มีค่าเเรกเข้าหรือค่าคอมมิชชั่น นอกจากนี้ยังสามารถเข้าร่วมแคมเปญยักษ์ใหญ่อย่างแคมเปญวันเกิด Lazada และแคมเปญ 11.11 ได้อีกด้วย
ขายของมือสองที่ Lazada : เข้า www.lazada.co.th เลือก “ขายสินค้ากับลาซาด้า” ที่แถบบนสุดของหน้าเว็บ
4. TARAD.com
เว็บไซต์ขายของมือสองเว็บเดียวที่ใช้ระบบ U – Commerce สามารถลงสินค้าที่นี่แล้วส่งไปที่ Shopee กับ Lazada ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาลงสินค้าซ้ำหรือสร้างร้านค้าขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับ Facebook Chat Fan page ได้อีกด้วย ครบทุกบริการทั้งการจัดการคำสั่งซื้อและการขนส่งเลยล่ะ
ขายของมือสองที่ TARAD.com : เข้า www.tarad.com เลือก “เปิดร้านค้าออนไลน์”
5. Facebook Group
อีกช่องทางหนึ่งสำหรับขายของมือสองคือกลุ่มเฟซบุ๊ก เป็นช่องทางที่ง่ายและสะดวก แค่โพสต์รูปกับบอกรายละเอียดสินค้า ไม่ต้องลงทะเบียนอะไรมากมายก็สามารถขายได้ แถมยังเจาะกลุ่มคนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ขายของมือสองที่ Facebook Group : พิมพ์ตรงช่องค้นหาว่า “มือสอง” แล้วก็เข้าร่วมกลุ่ม จากนั้นก็ดูว่าแต่ละกลุ่มมีเงื่อนไขในการขายของมือสองยังไงบ้าง
6. Facebook Marketplace
การขายของมือสองที่ Facebook Marketplace มีความพิเศษตรงที่เราสามารถกำหนดระยะทาง เพื่อให้ลูกค้าเห็นเราสินค้าเราอยู่ใกล้/ ไกลแค่ไหน รวมถึงสามารถเลือกพื้นที่ หมวดหมู่สินค้า และช่วงราคาได้ตามต้องการ แนะนำว่าให้ปักหมุดที่คนอยู่อาศัยเยอะ ๆ เพื่อให้มีคนเห็นสินค้าของเรามากขึ้น
ขายของมือสองที่ Facebook Marketplace : ไปที่ Marketplace แล้วเลือก “สร้างรายการสินค้าใหม่” หรือ “Sell Something”
ตลาดนัดขายของมือสอง (ออฟไลน์)
1. ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์
ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ถือว่าเป็นสถานที่ของคนรักของเก่ากับบรรดาวัยรุ่นทั้งหลาย และยังมีชาวต่างชาติมาเดินชอปอีกด้วย อยู่ข้างหลังซีคอนสแคว์ ซอยศรีนครินทร์ 51 อาหารที่นี่แต่ละอย่างชวนน้ำลายสอทั้งนั้น ส่วนสินค้าก็มีหลากหลาย โดยเฉพาะของวินเทจ ซึ่งจะมีคนนำของเก่าโบราณมาขายเต็มไปหมด ตั้งแต่ของแต่งบ้าน ของสะสม และรถโบราณ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมขายของมือสองยุคเก่าขนาดใหญ่เลยก็ว่าได้
เวลาเปิด – ปิด: โซนพลาซ่าเปิดวันอังคาร – อาทิตย์ โซนตลาดนัดเปิดวันพุธ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 17.00 – 24.00 น.
2. ตลาดนัดปัฐวิกรณ์
ตลาดนัดขายของมือสองที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือตลาดปัฐวิกรณ์ ย่านปากซอยนวมินทร์ 72 แห่งนี้นี่เอง ถือว่าเป็นแหล่งขายของมือสองที่ใหญ่มาก ของเยอะแบบจัดหนักจัดเต็ม โดยเฉพาะกองเสื้อผ้าที่ให้ลูกค้าคุ้ยหากันได้อย่างเมามัน มือใครยาวสาวได้สาวเอาล่ะงานนี้ ใครอยากเอาของมือสองไปขายอย่าพลาดที่นี่เชียว
เวลาเปิด – ปิด: จันทร์ – ศุกร์ เวลา 13:00 – 20:00 น. เสาร์ อาทิตย์ 10.30 – 21.30 น. (ของลงใหม่ เยอะกว่าวันธรรมดา)
3. ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน
แหล่งซื้อ-ขายของมือสองที่เย็นฉ่ำ เพราะตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน มีความคึกคักตลอดเวลา เพราะผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างเนืองแน่น แถมยังมีสินค้าหลากหลาย เช่น เสื้อผ้า ของใช้ กระเป๋า ของมือสอง พระเครื่อง ซีดีเก่า เทปเพลง ม้วนวีดีโอ หรือของเก่าบางอย่างที่เราอาจจะไม่เคยเห็นที่อื่น แต่ได้เห็นที่นี่ บอกเลยว่าคนกรุงเทพฯ และนนทบุรีไม่พลาดที่จะมาห้างนี้แน่นอน
เวลาเปิด – ปิด: ชั้น 8 เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 21.00 น.
4. ตลาดนัดนินจา อมตะนคร
ใครอยู่ชลบุรีหรือพื้นที่ใกล้ ๆ อยากขายของมือสอง มาจับจองพื้นที่ได้ที่นี่ แม้จะเปิดมาได้ไม่นาน แต่คนก็คึกคักตลอดเวลา เรียกได้ว่าแน่นเอี้ยด แถมตลาดยังกว้างมาก มีเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ล็อกขายของถึง 2,000 ล็อก มีทั้งโซนแฟชั่นของใหม่ ร้านอาหาร ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง และของมือสอง ยิ่งเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้ามือสอง บอกเลยว่าขายได้แน่นอน!
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 17.00 – 24.00 น. ส่วนโซนสินค้ามือสองเปิดให้ขายเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
5. ตลาดกลางบางแก้ว สมุทรสงคราม
เลยสมุทรสาครไปอีกหน่อย ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จะมีตลาดนัดบางแก้ว ตั้งอยู่ถนนพระราม 2 (กิโลเมตรที่ 58) ที่นี่เลื่องชื่อเรื่องสินค้าหลากหลาย ทั้งของใหม่ ของมือสอง และอาหาร ที่เห็นว่ามีไม่น้อยเลยก็คืออะไหล่รถมือสอง ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้าและพระเครื่องอีกด้วย ใครอยู่ใกล้ก็แวะเวียนมาขายของมือสองที่นี่ได้
เวลาเปิด – ปิด: เปิดอังคาร พฤหัสฯ และอาทิตย์ เวลา 12.00 – 21.00 น.
6. ตลาดนัดเบิร์ดคลองถม ราชบุรี
ที่นี่เป็นตลาดนัดคลองถมที่กว้างมาก แถมของและคนก็เยอะมากเช่นกัน โดดเด่นเรื่องพระเครื่อง ใครชอบเล่นพระมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน นอกจากนี้ยังมีพวกอุปกรณ์ช่าง เครื่องเสียง ของใช้ต่าง ๆ เสื้อผ้ามีทั้งมือหนึ่ง มือสอง แทบจะมีทุกอย่างให้เลือกสรร ถือว่าเป็นชุมชนขายของมือสองของที่ชาวราชบุรีต้องมาเดินเลยล่ะ ลูกค้าที่มาจากต่างที่ก็มีนะ
เวลาเปิด – ปิด: เปิดจันทร์ พุธ เสาร์ เวลา 10.00 – 22.00 น. ของมือสองน่าจะขายช่วงเย็น (จันทร์ของจะน้อย)
แนะนำว่าเริ่มต้นขายของมือสองใหม่ ๆ หากสินค้ามีแค่ชิ้นสองชิ้น อาจจะลองขายใน Facebook Group ดูก่อน แต่ถ้ามีเสื้อผ้าเยอะ ลองเอาไปขายตลาดนัดใกล้บ้านที่คนเดินเยอะดู บอกเลยว่าคนซื้อเยอะเชียวล่ะ หากขายเป็นจริงเป็นจัง ลองเลือกช่องทางที่ถูกจริตกับเรา หรืออ่านแล้วมีข้อเสนอดี ๆ ที่เราอยากได้
