Search
Close this search box.
เลือกม่านแบบไหนดี

วิธีเลือกม่านให้เข้ากับบ้าน
แบบไหนไม่
! แบบไหนใช่ !

  • ผ้าม่านเป็นสิ่งที่ทุกบ้านจะขาดไปไม่ได้ เพราะนอกจากจะช่วยกันแสงแดดแล้ว ยังช่วยให้บ้านของเราสวยและมีสไตล์มากขึ้น การเลือกม่านมาติดภายในบ้านจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ
  • รูปแบบของผ้าม่านนั้นมีทั้งหมด 9 แบบ บางแบบสามารถเข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ แต่บางแบบก็เข้าได้กับบ้านสไตล์เดียว ฉะนั้น ก่อนจะเลือกผ้าม่านควรศึกษาดูให้ดี
  • โดยเฉพาะม่านหลุยส์ ม่านกระเช้า และม่านไม้ไผ่

ในการตกแต่งบ้านทุกหลัง ผ้าม่านเป็นส่วนสำคัญที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี แต่การเลือกผ้าม่านให้เข้ากับบ้านนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเลย เพราะม่านแต่ละชนิดไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ วันนี้ Short Recap เลยมาแนะนำให้เรารู้จักกับผ้าม่านทั้ง 9 แบบ เพื่อให้เราเลือกม่านให้เข้ากับบ้านได้ง่ายขึ้น

1. ม่านจีบ

เลือกม่านแบบไหนดี: ม่านจีบ

ม่านจีบเป็นม่านที่ได้รับความนิยมมาก รูปแบบการเย็บม่านจีบมักจะนิยมทำเป็นจีบเล็ก ๆ 2-3 จีบแล้วเย็บรวมเป็นหนึ่งจีบ ระยะห่างของจีบที่เท่ากันจะทำให้ริ้วม่านทิ้งตัวลงมาได้อย่างสวยงาม ดูสมมาตรกัน อีกทั้งยังสามารถติดได้ทั้งแบบโปร่งและแบบทึบแสงไปพร้อมกัน แต่อาจมีข้อเสียนิดหน่อย คือ มีขนาดใหญ่และฝุ่นจับเกาะได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้ทำความสะอาดยาก

เหมาะกับ: หน้าต่างและประตูบานใหญ่

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านจีบ: เข้าได้เกือบทุกสไตล์ แต่จะเน้นไปที่สไตล์ลอฟต์หรือโมเดิร์น

2. ม่านตาไก่

เลือกม่านแบบไหนดี: ม่านตาไก่

ม่านตาไก่เป็นม่านอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอีกเช่นเดียวกัน เนื้อผ้าจะมีความหนาขึ้นมาอีกระดับ ลอนม่านค่อนข้างกว้าง ดูพลิ้วอลังการ รูม่านจะมีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายกับตาไก่ ทำให้เลื่อนง่าย ไม่ติดขัด และยังคงทน เพราะไม่หลุดง่ายแน่ ๆ ข้อด้อยอาจจะคล้ายกับม่านจีบ เพราะมีขนาดผืนที่ใหญ่เหมือนกัน ทำให้ทำความสะอาดยาก แต่จะคงรูปทรงเดิมไว้ได้ดีกว่า

เหมาะกับ: หน้าต่างและประตูบานใหญ่

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านตาไก่: บ้านที่เน้นความหรูหรา Luxury หรือสไตล์โมเดิร์นก็ได้

3. ม่านกระเช้า

เลือกม่านแบบไหนดี: ม่านกระเช้า

ม่านกระเช้าเป็นม่านที่เน้นความเรียบง่าย รูเกี่ยวราวม่านใช้ผ้าแทนห่วง มีลักษณะเหมือนสายเสื้อคอกระเช้า ซึ่งมีความคลาสสิก ริ้วม่านอาจไม่ได้สมมาตรเท่ากับม่านจีบ ซึ่งจากความไม่เป๊ะนี้ก็กลับทำให้มันพลิ้วไหวไปตามธรรมชาติ ดูมีชีวิตชีวาและผ่อนคลายมากกว่าที่เคย ข้อด้อยคือตอนเลื่อนจะไม่ไหลลื่นเท่ากับม่านตาไก่และม่านจีบ และต้องระวังไม่ให้เลื่อนแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้หูม่านขาดได้ แนะนำว่าให้ใช้ราวไม้จะเลื่อนง่ายที่สุด

เหมาะกับ: หน้าต่างและประตูปานกลาง – ใหญ่

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านกระเช้า: บ้านสไตล์วินเทจหรือมินิมอล

4. ม่านหลุยส์

เลือกม่านแบบไหนดี: ม่านหลุยส์

ม่านหลุยส์เป็นม่านขนาดใหญ่ เน้นความโอ่อ่า หรูหราแบบผู้ดี มีความสวยงาม ลักษณะของม่านจะมีเลเยอร์แนวนอนซ้อนกันหลายชั้นแล้วจับจีบขึ้นไป ลวดลายของผ้ามักจะเป็นลายไทยและลายดอกไม้ และยังมีการเสริมลูกเล่นอย่างพู่ไว้ที่ชายผ้าม่านอีกด้วย ข้อด้อยคือฝุ่นจะจับหนาเป็นชั้น ๆ ทำให้ดูแลทำความสะอาดยาก

เหมาะกับ: หน้าต่างและประตูบานใหญ่, ฉากหลังบนเวที

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านหลุยส์: บ้านสไตล์หรูหรา ออกแนวย้อนยุคแบบผู้ดีเก่า หรืออาจจะเป็นห้องประชุมที่เน้นความเป็นทางการและความน่าเชื่อถือ

5. ม่านพับ

เลือกม่านแบบไหนดี: ม่านพับ

ม่านพับเป็นม่านที่เน้นความเรียบหรูอยู่สบาย มีความทันสมัย ลักษณะจะเป็นการพับขึ้นไปเป็นชั้น ๆ โดยใช้การดึงรอก แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่ในการรวบเก็บ ดูเป็นระเบียบ ไม่รกตา แต่อาจจะกันแสงได้ไม่ดีเท่าม่านจีบ การเลือกม่านจีบมาตกแต่งจึงอาจเหมาะกับบ้านที่ต้องการให้เห็นแสงรำไรมากกว่า แถมค่อนข้างแกะมาทำความสะอาดยาก ฝุ่นเกาะหนาช่วงรอยพับ

เหมาะกับ: หน้าต่างบานเล็กที่ติดกันหลาย ๆ บาน

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านพับ: สไตล์โมเดิร์น

6. ม่านม้วน

เลือกม่านแบบไหนดี: ม่านม้วน

ม่านม้วนเป็นม่านที่นิยมมากในสมัยนี้ โดยเฉพาะออฟฟิศหรือสำนักงาน เพราะใช้งานง่ายและสะดวก ปรับระดับแสงให้เข้าได้ตามที่ต้องการ และสามารถม้วนเก็บได้ทั้งหมด ทำให้ดูเป็นระเบียบ ไม่เกะกะตา แถมยังทำความสะอาดง่ายอีกด้วย ไม่เก็บฝุ่น แต่ข้อด้อยคือไม่เหมาะกับหน้าต่างบานใหญ่ ๆ เพราะอาจทำให้รอกชำรุด เนื่องจากน้ำหนักของผ้าและราวม้วนที่ยาวเกินไป

เหมาะกับ: หน้าต่างบานเล็กที่ติดกันหลาย ๆ บาน

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านม้วน: สไตล์โมเดิร์น, มินิมอล

7. ม่านปรับแสง

เลือกม่านให้เข้ากับบ้าน: ม่านปรับแสง

ปัจจุบันคนมักจะเลือกม่านปรับแสงมาตกแต่งบ้านมากขึ้น เพราะดูทันสมัย อยู่ห้องไหนของบ้านก็เข้ากันไปหมด ที่สำคัญคือปรับปริมาณแสงได้ตามที่ต้องการ แถมมีลักษณะเป็นแนวตั้ง ทำให้แสงที่ลอดผ่านเข้ามาเป็นเส้นขนานสวยงามเท่ากันอีกด้วย และยังง่ายต่อการทำความสะอาด แค่นำผ้ามาชุบน้ำแล้วเช็ดฝุ่นออก ไม่ต้องถอดออกมาซักเหมือนผ้าม่านทั่วไป แต่ข้อด้อยคือ ไม่เหมาะกับประตูหน้าต่างที่ต้องการเปิดรับลม เพราะจะทำให้แผ่นม่านตีกัน สร้างความรำคาญและทำให้ชำรุดง่าย

เหมาะกับ: หน้าต่างบานใหญ่

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านปรับแสง: สไตล์โมเดิร์น, ,มินิมอล

8. ม่านไม้ไผ่

เลือกม่านแบบไหนดี: ม่านไม้ไผ่

หากอยากแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นหรือออกแนว Muji จะลองเลือกม่านไม้ไผ่มาตกแต่งก็ย่อมได้ มีทั้งแบบพับและแบบม้วน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ยิ่งถ้าภายนอกบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกดี แถมยังได้รับแดดจาง ๆ ไม่มืดทึบ แนะนำว่าตอนเลือกม่านไม้ไผ่อาจจะต้องดูดี ๆ ว่าแข็งแรงจริงไหม ไม่งั้นตอนดึงรอกอาจจะแตกหักได้ และควรเลือกที่มีเทคโนโลยีการป้องกันปลวกและแมลงภู่ด้วย ข้อด้อยคือไม่เหมาะกับหน้าต่างที่รับลมแรง ๆ

เหมาะกับ: หน้าต่างบานเล็กที่ติดกันหลาย ๆ บาน

สไตล์บ้านที่เข้ากับม่านไม้ไผ่: สไตล์มินิมอล เน้นความเป็นธรรมชาติ หรือจะเป็นโมเดิร์นแบบผสมผสานก็ได้

9. มู่ลี่

มู่ลี่เป็นม่านที่ได้รับความนิยมมากในสำนักงาน เสน่ห์ของมู่ลี่คือสามารถปรับได้หลายองศา ทำให้แสงที่ลอดเข้ามาเป็นเส้นสวยงาม ใครที่ชอบความมินิมอลแนะนำเลยว่าควรเลือกม่านแบบมู่ลี่ ที่พิเศษคือทำความสะอาดง่าย ทนต่อแสงแดดและความชื้นได้ดี ข้อด้อยคือไม่เหมาะกับหน้าต่างบานใหญ่และรับลมแรง ๆ

เหมาะกับ: หน้าต่างบานเล็ก โดยเฉพาะห้องน้ำและห้องครัว

สไตล์บ้านที่เข้ากับมู่ลี่: บ้านสไตล์โมเดิร์น, มินิมอล

ทั้งหมดนี้เป็นการแนะนำวิธีเลือกม่านให้เข้ากับบ้านแบบคร่าว ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ต้องยึดตามที่บอกเสมอไป เพราะเราสามารถที่จะ Adapt หรือปรับเปลี่ยนได้ ดีไม่ดีอาจจะสวยเก๋ไปอีกแบบ เป็นไอเดียให้คนอื่นได้อีกด้วย

SHARE

RELATED POSTS