Search
Close this search box.
ทำธุรกิจยังไงให้เจ๊ง

7 ข้อควรรู้! ทำธุรกิจยังไงให้เจ๊ง
(ประสบการณ์ตรง)

หลายคนไม่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจครั้งแรก เพราะคุณอาจเคยทำสิ่งเหล่านี้มาก่อน แน่นอนว่ามีไม่น้อยที่เก็บมันไว้เป็นบทเรียนว่าอย่าทำอีก Short Recap จะพาไปดูว่าบทเรียนนี้มีอะไรบ้าง เขาทำธุรกิจยังไงทำไมถึงเจ๊ง พร้อมวิธีเตรียมรับมือล่วงหน้า

ทำธุรกิจยังไงให้เจ๊ง - สินค้าไม่ตอบโจทย์

1. สินค้าไม่ตอบโจทย์

หลายคนพลาดตรงจุดนี้! เพราะก่อนเริ่มทำธุรกิจยังศึกษาตลาดได้ไม่ดีพอ สินค้าตอบโจทย์ลูกค้าไม่ชัด บางคนนำสินค้าไปขายไม่ตรงกับตลาด ปรากฏว่าขายไม่ได้ ทำให้ธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่า

วิธีรับมือ

– เลือกสินค้าที่จะขายก่อน แล้วตั้งคำถามต่อว่าจะขายใคร ขายที่ไหนบ้าง ถ้าเป็นสินค้าใหม่จะสร้าง Brand awareness ยังไง หรือถ้าเป็นสินค้าที่มีคู่แข่งอยู่แล้วต้องดูว่าสินค้าเราดีกว่าคู่แข่งตรงไหน ทำไมลูกค้าต้องเลือกเรา

– เลือกกลุ่มลูกค้าก่อน แล้วมาตั้งโจทย์ว่าจะขายอะไร ขายช่องทางไหนบ้าง

2. บริหารไม่เป็น

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเจ๊งมานักต่อนักคือบริหารธุรกิจไม่เป็น ทั้งการบริหารเงิน บริหารทรัพยากรในการผลิตสินค้า บริหารคน หรือแม้กระทั่งเวลา ซึ่งน้อยคนที่จะบริหารเองได้ทั้งหมด แต่สำหรับคนที่อยากจัดการเองทุกเรื่อง บอกไว้เลยว่าธุรกิจของคุณเสี่ยงโตช้ามาก เพราะไม่มีเวลาไปคิดไอเดียใหม่ ๆ เลย มัวแต่ไปทำส่วนอื่น แทนที่จะให้คนอื่นจัดการ เมื่อธุรกิจไม่โต แถมยังขาดทุน หลายคนเลยต้องอำลาวงการนี้ไป

วิธีรับมือ

– จ้างมืออาชีพหรือคนที่เชี่ยวชาญด้านนั้น ๆ มาช่วย

– ถ้าเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ควรรู้ลิมิตตัวเองว่าพอ Manage ไหวไหม ถ้าไม่ไหว ต้องหาคนช่วย

3. มีปัญหากับหุ้นส่วน

การมีปัญหากับหุ้นส่วนคือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจเจ๊งได้ง่าย เพราะต่างฝ่ายต่างตกลงกันไม่ได้ บ้างก็โกงกัน บ้างก็แบ่งกำไรไม่ลงตัวหรือเกี่ยงงานกันทำ เมื่อความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น สุดท้ายธุรกิจก็ต้องปิดตัวลง บางคนถึงขั้นตัดเพื่อนกันไปเลย ยิ่งคนที่สนิทกันมาก ๆ นี่ชอบตกลงอะไรกันปากเปล่า สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรไม่มี พอเกิดปัญหาเลยไม่มีหลักฐานมายืนยัน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันไม่จบไม่สิ้น

วิธีรับมือ

– แบ่งเปอร์เซ็นต์กันให้ชัดเจน และต้องมีการทำสัญญาลายลักษณ์อักษร จำไว้ว่าเราทำธุรกิจ ไม่ได้เล่นขายของ ตอนตกลงกันควรคุยกันอย่างจริงจัง

– ใช้เหตุผลนำความรู้สึกเสมอ อย่าคิดว่าเป็นเพื่อนแล้วอะไรก็ได้ ตรงไหนได้หรือไม่ได้ต้องบอกกันตรง ๆ เพราะมันอาจสร้างปัญหาในอนาคต

– ถ้าไม่อยากมีปัญหากับหุ้นส่วน ให้ใช้เงินทุนตัวเองหรือเงินกู้

ทำธุรกิจยังไงให้เจ๊ง - ไม่มีเงินสำรอง

4. ไม่มีเงินสำรอง

ปัญหาของมือใหม่เริ่มทำธุรกิจคือมัวหมกมุ่นอยู่กับการจัดตกแต่งร้านเพื่อให้ทุกอย่างออกมาเพอเฟ็กต์ แน่นอนว่าต้องใช้เงินเยอะ บางคนมีเงินทุน 100% ใช้ไปแล้ว 90% บอกเลยว่าไม่รอด เพราะเราไม่รู้เลยว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะมีภัยธรรมชาติ เดินกลยุทธ์พลาดจนขาดทุน หรือลูกน้องยกทีมกันลาออกหรือเปล่า หากไม่มีเงินสำรองพร้อมรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ เตรียมบ๊ายบายได้เลย

วิธีรับมือ

วางแผนว่าควรลงทุนกับธุรกิจนี้เท่าไร คำนวณทุกอย่างออกมาให้เสร็จสรรพ แล้วแบ่งเงินทุนไว้ใช้สำหรับส่วนนี้ ที่เหลือให้เก็บสำรองไว้ยามฉุกเฉิน อย่าใจง่ายนำไปใช้เด็ดขาด “นิด ๆ หน่อย ๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เดี๋ยวก็ได้กลับคืน” คุณเริ่มประมาทแล้วล่ะ!

ทำธุรกิจยังไงให้เจ๊ง - มีรายได้แค่ช่องทางเดียว

5. มีรายได้แค่ช่องทางเดียว

เราคงเคยเห็นหลาย ๆ แบรนด์ประสบความสำเร็จจากการขายจากออฟไลน์ พอวันหนึ่งที่กระแสออนไลน์เข้ามา กลับปรับตัวไม่ทัน สุดท้ายธุรกิจก็อาจไปไม่รอด แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องหันมาทำออนไลน์กันหมดนะเพราะสินค้าบางอย่างยังคงต้องพึ่งหน้าร้าน แต่ศึกษาการทำตลาดออนไลน์ไว้ก็ดี เผื่อจู่ ๆ ต้องกักตัวเพราะไวรัสระบาดอีก จะได้ลุยออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องรอให้ธุรกิจชะงัก

วิธีรับมือ

– ศึกษาการตลาดออนไลน์เอาไว้ รายได้สองทางย่อมดีกว่าทางเดียวอยู่แล้ว

– สำหรับคนที่ทำออนไลน์ไม่เป็น คิดว่าต้องจ้างเอเจนซีแน่ ๆ แต่ยังไม่พร้อมจ่ายเพราะเงินทุนไม่พอ ให้ศึกษาก่อนว่าทำออนไลน์คุ้มไหม ถ้าคุ้ม การนำเงินมาลงส่วนนี้ก็อาจจะทำให้ธุรกิจโตไวกว่า

– ดูว่าสินค้าของเราเหมาะกับแพลตฟอร์มออนไลน์ไหน เช่น Facebook, Instagram, Google ads, Shopee หรือว่า LAZADA ให้เลือกอันที่เหมาะที่สุดก่อน หากไม่ได้ผลให้ลองเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ถ้าได้ผลตอบรับดีควรขยายช่องทางเพิ่มเพื่อให้ได้ลูกค้ามากขึ้น

ทำธุรกิจยังไงให้เจ๊ง - ไม่สร้างธุรกิจระยะยาว

6. ไม่สร้างธุรกิจระยะยาว

กับดักที่ทำให้ธุรกิจเจ๊งคือเราไม่มองการณ์ไกล คิดแค่ว่าวันนี้ขายได้ก็พอแล้ว แต่ไม่มีการคิดต่อว่าทำยังไงให้ลูกค้าใหม่มา ลูกค้าเก่าไม่หาย ซึ่งตรงนี้อาจต้องใช้กลยุทธ์ และสินค้าแต่ละประเภทก็ใช้ไม่เหมือนกันด้วย ถึงแม้ว่าบางแบรนด์จะขายได้หลักล้านต่อปี แต่ถ้าไม่สร้างระบบให้ตอบโจทย์โลกในอนาคตก็เสี่ยงเจ๊งได้เหมือนกัน

วิธีรับมือ

– จับตาดูเทรนด์โลก เทรนด์การตลาดอย่างสม่ำเสมอ

– ก่อนสร้างธุรกิจต้องมองถึงอนาคตด้วยว่าต่อไปจะทำยังไงให้คนมาซื้อซ้ำ ควรปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง

– คุณภาพของสินค้าสามารถทำให้ลูกค้าซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ได้

ทำธุรกิจยังไงให้เจ๊ง - ไม่มีที่ปรึกษาที่ดี

7. ไม่มีที่ปรึกษาที่ดี

คิดจะลุยเดี่ยวโดยไม่ปรึกษาใคร คุณคิดผิดแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้นคือปรึกษาคนที่ไม่เคยทำธุรกิจ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องหรือใช้ได้จริงหรือเปล่า เพราะหลักการบางอย่างก็ยังมีช่องโหว่ บางคนมองว่าการทำธุรกิจดูไม่ยากนะ แค่ไปดีลกับคนนั้นคนนี้เอง แต่ความจริงมันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ เพราะงั้นการมีที่ปรึกษาที่ดีจึงสำคัญมาก ๆ เพราะเขาไกด์แนวทางให้เราได้ แล้วธุรกิจก็จะโตไวด้วย

วิธีรับมือ

– ปรึกษาคนที่ทำธุรกิจจริง ๆ ถ้าเขาประสบความสำเร็จ ก็ควรเชื่อสิ่งที่เขาแนะนำ แต่ต้องประเมินด้วยว่าเหมาะจะนำมาใช้กับธุรกิจของเราหรือเปล่า

– เจอปัญหาอะไรนิดหน่อยควรปรึกษาเลย ไม่ปล่อยปัญหาทิ้งไว้นาน

รู้แล้วใช่ไหมว่าการทำธุรกิจซับซ้อนกว่าที่คิด ไม่ใช่มีแค่เงินทุนแล้วจะทำสำเร็จเลย ยังมีปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่เราต้องคำนึงอีก บางคนวางแผนมาอย่างรัดกุมแต่ธุรกิจก็ยังไม่เปรี้ยง! แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ยังไงก็หาลู่ทางจนสำเร็จได้อยู่แล้ว ถ้าเราสู้ไปถอย

SHARE

RELATED POSTS

ก้าวสู่การลงทุนและทำธุรกิจให้ทันเทคโนโลยีเพื่ออนาคตอย่าง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มาพร้อมความสามารถเลียนแบบมนุษย์ซึ่งพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก…