Search
Close this search box.
เปิดตำนาน “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์” ที่สุดความศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคลาภ

เปิดตำนาน “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์”
ที่สุดความศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคลาภ

  • วัดเจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เดิมเป็นวัดร้างที่เชื่อว่าสร้างมานานนับ 1,000 ปี

  • ตำนานของไอ้ไข่มีหลายตำนานด้วยกัน บ้างก็เล่าว่าไอ้ไข่เป็นเด็กที่ติดตามหลวงปู่ทวดเมื่อท่านมาธุดงค์ที่วัดเจดีย์ บ้างก็เล่าว่าไอ้ไข่คือลูกของชาวบ้านแถวนั้นที่เคยวิ่งเล่นอยู่ในวัด แต่ดันตกน้ำเสียชีวิต วิญญาณเลยผูกพันกับวัดนี้ตลอดมา

  • แต่อีกตำนานหนึ่งเล่าว่าเมื่อเจ้าพระยาคืนเมืองมีท้องตรามายังเมือง “อลอง” ปัจจุบันคือตำบลฉลอง มีบันทึกว่า “มาถึงเมืองอลอง แวะพักหนึ่งคืน นมัสการสมภารทองมีศิษย์เกะกะชื่อว่าไอ้ไข่” ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าไอ้ไข่อาจมีจริงตามตำนานนี้

  • สำหรับการขอพรจากไอ้ไข่ วัดเจดีย์ เราสามารถขอเรื่องอะไรก็ได้ แต่ที่เด่นที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องค้าขาย หน้าที่การงาน และเลขเด็ด

 “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์” หรือ “ตาไข่” คือรูปไม้แกะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 9 -10 ปี ตั้งอยู่ในศาลาที่วัดเจดีย์ เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ ณ วัดแห่งนี้ และเป็นที่สักการะของชาวบ้านในละแวกใกล้วัดไปจนถึงต่างจังหวัด เชื่อกันว่าให้โชคให้ลาภจนมีผู้คนเดินทางมาขอพรวันละ 40,000 คนเลยทีเดียว

ทำไมถึงเรียก “ไอ้ไข่”

ทำไมถึงเรียก “ไอ้ไข่”

ตามตำนานบอกว่าวิญญาณดวงนี้มาเข้าฝันบอกว่าตัวเองชื่อ “ไอ้ไข่” ซึ่งภาษาถิ่นใต้มักเรียกเด็กผู้ชายเล็ก ๆ ว่า “ไอ้ไข่” เหมือนกัน บางทีก็เรียกว่า “ไอ้บ่าว” แม้จะไม่ค่อยไพเราะนัก แต่ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของวัดเจดีย์ หรือบางคนจะเรียก “ตาไข่” ก็ได้ เพราะมีอายุหลายร้อยปีแล้ว

ตำนาน “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์”

ตำนาน “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์”

เรื่องเล่าของไอ้ไข่มาจากชาวบ้านแถวนั้นเคยเห็นเด็กประมาณ 9-10 ขวบวิ่งเล่นอยู่บริเวณวัดเจดีย์ แต่พอไปดูกลับไม่เจอใคร แม้แต่ร่องรอยก็ไม่มีให้เห็น แต่เด็กคนนี้ก็ยังปรากฏให้เห็นบ่อย ๆ จนชาวบ้านเรียกว่า “เด็กวัด” ซึ่งเชื่อว่าเป็นวิญญาณที่สถิตอยู่วัดเจดีย์แห่งนี้

ส่วนที่มาของไอ้ไข่มีหลายตำนานด้วยกัน บ้างก็เล่าว่าไอ้ไข่เป็นเด็กที่ติดตามหลวงปู่ทวดเมื่อท่านมาธุดงค์ที่วัดเจดีย์ ท่านจึงรับรู้ด้วยญาณว่าที่นี่มีทรัพย์สินโบราณฝังอยู่ จึงบอกให้ไอ้ไข่เฝ้าอยู่ที่นี่เพื่อดูแลสมบัติของชาติ บ้างก็เล่าว่าไอ้ไข่คือลูกของชาวบ้านแถวนั้นที่เคยวิ่งเล่นอยู่ในวัดเมื่อครั้งโบราณ แต่ดันตกน้ำเสียชีวิต วิญญาณเลยผูกพันกับวัดนี้ตลอดมา

เรื่องเล่าของไอ้ไข่ที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้

ตำนานกล่าวว่าเมื่อครั้งที่ “พระขรัวทอง” เป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ มีเด็กวัดคอยปรนนิบัติอยู่ 2 คน คนหนึ่งชื่อเหมียน แต่อีกคนไม่ทราบชื่อ ชาวบ้านเลยเรียกว่า “ไอ้ไข่” ซึ่งมีหลักฐานเรื่องเล่าเมืองนครกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เจ้าพระยาคืนเมืองมีท้องตรามายังเมือง “อลอง” (อ่านว่า “หลอง” ปัจจุบันคือตำบลฉลอง) บันทึกว่า “มาถึงเมืองอลอง แวะพักหนึ่งคืน นมัสการสมภารทองมีศิษย์เกะกะชื่อว่าไอ้ไข่”

ตำนานนี้เล่าว่าไอ้ไข่นั้นเป็นเด็กที่ซุกซน แต่ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน จึงไม่มีใครเกลียดชัง หากชาวบ้านหมดปัญญาในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็ให้ไปขอความช่วยเหลือจากไอ้ไข่แล้วจะสำเร็จ จนถูกยกให้เป็นเด็กที่มีอานุภาพพิเศษ หากควายตัวใดไม่ยอมให้จับหรือพยศ แค่เอ่ยปากขอให้ไอ้ไข่ไปช่วยจับ เมื่อไอ้ไข่จับหางติดแล้วจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาดไม่ว่าควายจะวิ่งอย่างไร จนในที่สุดควายต้องละพยศลง หลังจากนั้นไอ้ไข่ก็กลายเป็นเด็กที่คนยุคนั้นกล่าวขวัญกันไม่รู้จบ

“เมื่อท่านขรัวทองชราภาพ ไอ้ไข่ก็เดินลงสระน้ำหน้าวัด ไม่ขึ้นมาให้ใครเห็นอีกเลย”

ท่านสมภารวัดรูปปัจจุบันเล่าว่าก่อนท่านขรัวทองชราภาพ เห็นว่าตอนนั้นพม่าบุกเมืองนคร ซึ่งวัดเจดีย์ก็เป็นด่านหนึ่งที่พม่าบุก เป็นเหตุให้ชาวบ้านต่างหนีกันไปคนละทิศละทาง (มีหลักฐานชื่อบ้านในละแวกใกล้เคียงรองรับ เช่น ทุ่งสู้เมือง นาค่าย ทุ่งเจ้าไชย ฯลฯ) เมื่อท่านสมภารเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ค่อยดี จึงบอกให้ไอ้ไข่รักษาวัดไว้ อย่าทิ้งไปไหน ส่วนท่านขรัวทองเองก็อยู่ปกป้องวัดด้วยเช่นกัน

พระอธิการอภิชิต เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน (2563) เล่าต่อว่า ไม่ทราบว่าท่านขรัวทองมรณภาพเมื่อใด และไอ้ไข่มีชีวิตถึงสมัยไหน แต่มีเล่าต่อ ๆ กันมาว่าหลังจากท่านขรัวทองมรณภาพแล้ว ไอ้ไข่ก็เดินลงไปในสระน้ำหน้าวัด แล้วไม่ขึ้นมาให้ใครเห็นอีกเลย วันดีคืนดีก็มีคนเห็นเด็กวิ่งเล่นในวัด เดินผ่านให้เห็น มีเสียงให้ได้ยิน

เที่ยง หักเหล็ก จอมขมังเวทย์ผู้สร้างรูปไม้แกะสลักไอ้ไข่

ผู้ใหญ่เที่ยง เมืองอินทร์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ ฉายาว่า “เที่ยง หักเหล็ก” เพราะมีอาคมที่สามารถหักตะปู หักมีดพร้าได้ เล่าว่าคืนหนึ่งมีเด็กผู้ชายมาเข้าฝันบอกว่าให้ทำรูปปั้นให้หน่อย จะได้มีที่อยู่ ท่านจึงถามว่าชื่ออะไร เด็กคนนั้นก็ตอบว่าชื่อ “ไอ้ไข่” ท่านจึงนำไม้ตะเคียนมาแกะสลักเป็นรูปคน แล้วอัญเชิญวิญญาณมาสิงสถิต ซึ่งคนที่มีวิชาอาคมเท่านั้นถึงจะทำได้ จนเป็นที่มาของ “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์” หากใครมีเรื่องเดือดร้อน วัว ควาย หมู ข้าวของสูญหาย ก็มาจุดธูปบนบานขอให้ช่วยหาได้ ซึ่งมักจะได้ผลเสมอ จนไอ้ไข่กลายเป็นที่รักที่ศรัทธาของชาวบ้าน

ทำไม “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์” โด่งดังไปทั่วสารทิศ

“ไอ้ไข่ วัดเจดีย์” โด่งดังไปทั่วสารทิศ

พ.ศ. 2543 เป็นปีที่วัดเจดีย์ไม่มีภิกษุจำพรรษา จึงมีนายทหารจากกองทัพภาคที่ 4 นครศรีธรรมราช นำทหารมาปราบปรามผู้ก่อการร้ายและแวะค้างคืนที่นี่ แต่ไม่ได้บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งขณะที่ทำท่าว่าจะหลับก็โดนเขกกบาลจนผงกหัวขึ้นมาก็เห็นเงาเด็กวิ่งหายไปในความมืด

บางคนโดนดึงแขนดึงขาบ้าง โดนปืนตีศีรษะบ้าง จนไม่ได้หลับได้นอน และต้องสั่งทหารให้เคลื่อนพลกลางดึก รุ่งขึ้นจึงเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านเลยบอกให้รับรู้เรื่องราวของไอ้ไข่ ตอนกินข้าวก็แบ่งเซ่นให้ไอ้ไข่ด้วย ก่อนนอนก็บอกกล่าวสักหน่อย คืนต่อมาทุกอย่างก็เลยสงบ เมื่อทหารเรื่องนี้มาเล่าให้คนภายนอกรู้ ชื่อเสียงของไอ้ไข่ก็โด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ

คนนิยมขออะไรจาก “ไอ้ไข่” บ้าง

สามารถขอได้ทุกเรื่อง! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค้าขาย หน้าที่การงาน บางคนก็มาขอให้ลูกหลานหายป่วย และที่เด็ดสุดน่าจะเป็นเรื่องหวยที่ถูกกันมานักต่อนัก คนหนึ่งถูกที 2 ล้านก็มี จนทำให้ไอ้ไข่ วัดเจดีย์เป็นที่พูดถึงทุกวันนี้ และมีคนมากราบไหว้บูชาอย่างไม่ขาดสาย

ของแก้บนไอ้ไข่ วัดเจดีย์มีอะไรบ้าง

จริง ๆ ไอ้ไข่ชอบอะไรไม่มีใครรู้ แต่ด้วยความเป็นเด็กคนก็คิดว่าน่าจะชอบ “ลูกประทัด ตุ๊กตาไก่ ชุดทหาร” บ้างก็มีหนังสติ๊กและของเล่นเด็กด้วย ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวว่าอยากแก้บนด้วยอะไร

จากประทัดที่กองเป็นภูเขามหึมาและไก่ที่วางเรียงรายอยู่เต็มวัด ก็ชี้วัดแล้วว่าคนเลื่อมใสศรัทธาไอ้ไข่มากขนาดไหน บางคนอธิษฐานอยู่ที่บ้านแต่ไม่ได้เดินทางมาที่วัด เมื่อได้ตามที่ขอแล้ว ก็ฝากให้คนละแวกวัดเจดีย์ไปจุดประทัดแก้บนให้ก็มี

ของแก้บนไอ้ไข่ วัดเจดีย์มีอะไรบ้าง

ด้วยบารมีของไอ้ไข่นี้ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการขายของ วัดร้างกลายเป็นวัดที่เจริญ และไม่ได้ยินการโฆษณาให้ทำบุญ เพราะทุกคนที่มาที่นี่จะมาด้วยศรัทธาของตัวเอง บางคนมา 34 ครั้ง เพราะว่าขออะไรจากไอ้ไข่ก็ประสบผลสำเร็จเสมอ แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์กล่าวว่า “การมาที่นี่ไม่ได้เพื่อให้ญาติโยมหลงงมงาย แต่ต้องช่วยเหลือตนเองเป็นเบื้องต้นเสียก่อน ศรัทธาแล้วแล้วเอาไปเป็นกำลังใจ ไม่ใช่บนบานอย่างเดียว”

SHARE

RELATED POSTS